รวยด้วยการเล่นหุ้น VI : ทางรุ่ง หรือ ทางร่วง

6 นาที
อัพเดทครั้งล่าสุด 17 ส.ค. 2566 09:59 น.
coverImg
แหล่งที่มา: DepositPhotos

“ สำหรับผม ต้องลงทุนในหุ้น VI เท่านั้น เพราะเป็นการลงทุนที่ยั่งยืน “ ผมเชื่อว่าสำหรับมือใหม่หัดลงทุนหลายคน คงเคยได้ยินคำพูดของกูรู ( หรือ เพียงแค่ กูรู้ ) แนะนำถึง การลงทุนในหุ้นแบบปลอดภัยที่สุด คือ การลงทุนหุ้นในกลุ่ม VI แน่นอน 


สำหรับคนที่อยากลงทุนเพื่อผลักดันตัวเองให้พ้นจากจุดเดิม พร้อมกับเงินลงทุนที่ค่อนข้างจำกัด ดูเหมือนการลงทุนหุ้นในกลุ่ม VI เป็นทางเลือกที่น่าสนใจอย่างมาก 


ใช่ครับ การลงทุนหุ้นในกลุ่ม VI ถือเป็นการลงทุนชั้นดี มีความปลอดภัยในระดับหนึ่ง ซึ่งผมเองก็แอบเก็บหุ้นแนว VI ไว้กับตัวบ้าง ซึ่งได้ผลตอบแทนที่ดีเลยทีเดียว แต่ถึงกระนั้น มันไม่ได้หมายความว่า การลงทุนหุ้นในกลุ่ม VI ไม่มีความเสี่ยงนะครับ การลงทุนอันใดโดยไม่มีการศึกษาอย่างชัดเจน สิ่งที่คุณได้รับอาจเป็นการขาดทุนแบบย่อยยับก็ได้ ผมจึงอยากแบ่งปัน วิถีการเล่นหุ้น VI สไตล์ของตัวเอง ว่ามันเหมือนหรือต่างกับนักลงทุนท่านอื่นอย่างไร เชิญติดตามไปพร้อม ๆ กันครับ

หุ้น VI คืออะไร?

พูดมาตั้งนาน ยังไม่ได้บอกเลยว่า หุ้น VI คือหุ้นอะไร คำว่า VI ย่อมาจากคำว่า Value Investor หรือ Value Investing หมายถึงหุ้นที่เน้นการลงทุนในระยะยาว ภาษาหุ้นสวย ๆ เขาเรียกว่า หุ้นคุณค่า ครับ 


แล้วหุ้นแบบไหนกันหนอที่นักลงทุนทั่วไปมักเรียกว่าหุ้น VI สรุปง่าย ๆ คือ หุ้นตัวใดก็ตามที่เน้นการลงทุนในสิ่งใดที่เป็นปัจจัยพื้นฐานในความจำเป็นของมนุษย์ ไม่ว่า น้ำท่วม แผ่นดินไหว ไดโนเสาร์บุก หุ้นตัวนี้แทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงอันใด เป็นเพราะสินค้า หรือ การบริการที่สร้างผลกำไรนั้นเกิดจากการกินอยู่ใช้จ่ายของมนุษย์ครับ ตราบใดที่หุ้นตัวนั้นยังลงทุนกับสิ่งที่มนุษย์ “ จำเป็นต้องใช้ “ หุ้นตัวนั้น จะถูกจัดไว้ในกลุ่มหุ้นคุณค่า หรือ หุ้น VI ทันที 


ตัวอย่างหุ้น VI ที่โดดเด่นในประเทศไทย อาทิ หุ้นที่เกี่ยวข้องกับ การขนส่งและการเดินทาง แน่นอนครับ ไม่ว่าเศรษฐกิจจะย่ำแย่เพียงใด การเดินทางยังคงต้องคู่ไปกับวิถีชีวิตของมนุษย์ไม่เปลี่ยนแปลง หรือ หุ้นในกลุ่ม โรงพยาบาล ที่ถือเป็นหุ้นกลุ่ม VI ชั้นดีที่นักลงทุนชอบช้อนซื้อเก็บกัน เพราะไม่ว่าโลกจะแตก ไดโนเสาร์จะบุก ยังมีคนเจ็บป่วย ยังมีคนเข้าโรงพยาบาล ดังนั้นรายได้ของหุ้นกลุ่มนี้จึงมีเข้ามาเรื่อย ๆ ตราบใดที่มีคนป่วย และต้องเข้าไปใช้บริการในโรงพยาบาล เป็นต้น 


ดังนั้น หุ้นในกลุ่ม VI เป็นหุ้นที่นักลงทุนที่ชอบความมั่นคงนิยมลงทุน แม้กระทั่งเจ้าพ่อตลาดหุ้นอย่าง วอร์เรน บัฟเฟตต์ ยังแนะนำให้ถือครองหุ้น VI กันเลย


หุ้น VI คืออะไร? แนะนำหุ้น VI


ลักษณะของหุ้น VI

หุ้นในกระดานมีมากมายหลายร้อย แถมหุ้นหลาย ๆ ตัวก็ลงทุนในสิ่งที่มนุษย์ต้องกินต้องใช้อย่างพวก อาหาร หรือ อุตสาหกรรมหนักต่าง ๆ แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าตัวไหนมันเป็นหุ้น VI เล่า หุ้นในกลุ่ม VI เขามีคาแรกเตอร์ของเขาครับ มองดูภาพรวมแบบง่าย ๆ โดยไม่ต้องเปิดกราฟ เปิดแท่งเทียนก็รู้แล้วว่า เจ้านี่แหละ หุ้น VI แล้วลักษณะเด่นของหุ้น VI นั้นเป็นแบบไหน ผมให้ทริคในการอ่านให้ออก มองให้แตกถึงบุคลิกหุ้น VI ดังนี้ครับ 

◆  หุ้น VI เป็นหุ้นที่ลงทุนในปัจจัยพื้นฐานของมนุษย์

ถือเป็นเรื่องพื้นฐานสำหรับการลงทุนในหุ้น VI ครับ นั่นคือ หุ้นตัวใดก็ตามที่ลงทุนในปัจจัยพื้นฐานความเป็นอยู่ของมนุษย์ นั่นมีแนวโน้มเป็นหุ้น VI สูง โดยหุ้น VI สามารถแบ่งการลงทุนได้ออกเป็นสองกลุ่มคือ หุ้นที่ลงทุนตามสภาวะการตลาด และหุ้นที่ลงทุนจนเป็นเมกะเทรนด์ หุ้น VI ที่ขึ้นอยู่กับสภาวะตลาดคือ หุ้นที่มีผลกำไร การปันผล ตามอัตราการเติบโตของตลาดในขณะนั้น อาทิ หุ้นเกี่ยวข้องกับการปล่อยสินเชื่อ แน่นอน ไม่ว่าสภาวะเศรษฐกิจเป็นเช่นไร การปล่อยสินเชื่อยังคงเป็นธุรกิจที่สามารถดำเนินต่อไปได้ แม้ว่าสภาวะเศรษฐกิจจะตกต่ำก็ตามแต่ แต่ถึงกระนั้น หุ้น VI ที่ขึ้นอยู่กับสภาวะตลาด ก็สามารถซบเซาตามกระแสหรือ เทรนด์การตลาดที่ลดคุณค่าลง อาทิ หุ้นของสายการบินต่าง ๆ ในช่วง โควิด19 แม้ว่าการเดินทางและการขนส่งทางอากาศยังคงเป็นปัจจัยหลักในหุ้นของการขนส่ง แต่สภาวะงดบินของสายการบินทั่วโลก ย่อมทุบราคาและปันผลของหุ้นในเครือสายการบินเหล่านั้นแน่นอน 

ส่วนหุ้นที่ลงทุนในเมกกะเทรนด์ คือ หุ้นที่ลงทุนในทุกสิ่งที่เป็นปัจจัยพื้นฐานของคนในสังคม อาทิ หุ้นในกลุ่มของรถไฟฟ้า การประปา สนามบิน สิ่งเหล่านี้เป็นโครงสร้างพื้นฐานทางสังคมที่ทุกคนยังคงต้องใช้ ดังนั้นมูลค่าหุ้นและเงินปันผลของหุ้นจึงไม่ค่อยผันผวนไปตามสภาวะการของตลาดหุ้นมากนัก แน่นอนว่า หุ้นที่ลงทุนในเมกกะเทรนด์นั้นย่อมเป็นที่หมายตาของนักลงทุนแทบทั้งหมดที่สนใจลงทุนในหุ้น VI รวมถึงผู้เทรดหุ้นที่หวังผลกำไรรายวัน ด้วยพื้นฐานหุ้นที่มาจากการลงทุนในโครงการที่เข้มแข็งและมีความสำคัญต่อสังคม การทำกำไรในหุ้น VI กลุ่มนี้จึงทำได้ไม่ยาก


◆  หุ้น VI เน้นเรื่องผลตอบแทนแบบปันผล 

หุ้นบางตัวถือเป็นหุ้น VI ด้วยตัวของมันเอง เนื่องจากความแข็งแกร่งของแบรนด์ พื้นฐานการขยายเศรษฐกิจที่ครอบคลุมความต้องการของผู้คนในบริเวณกว้าง ทำให้มูลค่าจากการให้ผลตอบแทนด้วยเงินปันผลจึงมีมูลค่าสูงตามไปด้วย เคยมีกูรูหลายท่านแนะนำว่า การที่เราจะถือครอบหุ้น VI เพื่อการรับเงินปันผล ควรหาหุ้น VI ที่ให้เงินปันผลในระดับ 4% ต่อหุ้นขึ้นไป ซึ่งในตลาดหุ้นไทย เคยมีการสำรวจหุ้นที่จ่ายผลตอบแทนในรูปแบบเงินปันผลที่สูง มีประมาณ 30 บริษัททุนหุ้นกู้ได้

 

ตัวอย่างที่ผมคิดว่าเป็นหุ้น VI ทั้ง ๆ ที่เพื่อนพ้องในกระดานเดียวกัน มีความผันผวนอย่างหนักคือ หุ้นของบริษัทโค้กครับ ( ไม่ชี้นำครับ เพราะโค้กไม่ได้ใช้ชื่อนี้จดทะเบียนในตลาดหุ้น ) โค้กยังคงมียอดขายอย่างต่อเนื่อง แม้บริษัทคู่แข่งหลายเจ้าพับกระดาน หรือหุ้นหมดราคาไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ เช่น หุ้นน้ำผลไม้ของเสี่ยคนดังยี่ห้อหนึ่งที่เปิดตัวมาในราคาที่สูงมาก แต่ในปัจจุบันราคาเหลือเพียง สองบาทปลาย ๆ ไม่ต้องถามหาปันผลให้เสียเวลาว่าจะมีไหม อะไรคือความต่างของทั้งสองบริษัทนี้

 

ความต่างกันคือ หุ้นโค้ก เป็นผลประกอบการโดยรวมเกือบทั้งโลก เฉพาะของไทย มูลค่าทั้งหมดวัดจากการส่งโค้กออกไปขายในประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย ดังนั้น มูลค่าหุ้นของโค้กจึงไม่กระดิกมาก ปันผลยังคงมาดีเรื่อย ๆ ต่างกับหุ้นน้ำผลไม้ที่เป็นของใหม่ ใช้ตัวพรีเซ็นเตอร์เป็นจุดขายมากกว่าตัวผลิตภัณฑ์ ไม่นานจึงพังพาบ จากหุ้น VI จึงกลายเป็นหุ้น ICU ไป ดังนั้น การเลือกหุ้น VI เราจึงต้องดูเงินปันผล บวก ผลประกอบการของบริษัทควบคู่กันไปนะครับ 


◆  หุ้น VI มีมูลค่าหุ้นขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ของดีต้องมีคนตามฉันใด หุ้น VI ที่ดี ต้องมีคนติดตามฉันนั้น หุ้น VI เป็นที่หมายตาของนักลงทุนทั้งลงทุนรายวัน ที่หวังผลกำไรจากค่าความต่างของราคาหุ้น และนักลงทุนสาย VI พันธุ์แท้ที่พร้อมถือหุ้นในระยะยาวเพื่อทำกำไรจากเงินปันผล ดังนั้น เมื่อมีคนต้องการถือครอง มากกว่า ปล่อยออกมาขาย มูลค่าหุ้น VI จึงสูงตามความต้องการของตลาดไปด้วย  แม้บางครั้ง อาจเจอภาวะติดดอย  ( ซื้อหุ้นในราคาสูงเกินไป ) แต่ก็ติดกันแค่พักเดียว จากนั้น ราคาหุ้นก็กลับทะยานขึ้นไปอีกครั้ง เหตุเพราะ หุ้น VI ลงทุนในสิ่งที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตอยู่ของมนุษย์ราคาจึงไม่ผันผวนไปตามตลาดมากนัก มีแต่ขึ้นกับขึ้นไปเรื่อย ๆ


หุ้นโดดเด่นที่ผมเก็บไว้ในพอร์ตคือ หุ้นของรถไฟฟ้าครับ ในระหว่างการถือครอง มีเสียงค่อยขอดบอกให้ปล่อยขายอยู่เรื่อย แม้กระทั่ง “ เฮ้ย รถไฟฟ้ามีปัญหา เดี๋ยวหุ้นตกยาว ปล่อยไปเถอะ “ ก็ได้ยินอยู่เนือง ๆ แต่สิ่งที่ได้เห็นคือ หุ้นรถไฟฟ้ายังคงขยับตัวอยู่ในกรอบแคบ ๆ แบบ เจ็บนิด ๆ ( ถ้าขายตอนนั้น ) และเมื่อทุกอย่างพร้อม หุ้นรถไฟฟ้าเหมือนจรวดที่พุ่งทะยานออกจากฐานปล่อย ไม่มีทีท่าว่าจะลง น้อยกว่า ราคาที่ปรับสูงขึ้นไปเรื่อย เมื่อใดที่คุณพบหุ้นที่ลงทุนกับพื้นฐานที่เข้มแข็ง อย่าปล่อยให้หลุดลอย มิฉะนั้น ราคาเขาอาจลอยไปจนฉุดไม่อยู่ได้ อดทั้งกำไรส่วนต่าง อดได้ทั้งปันผลเลยนะครับ


หุ้น VI


รายได้จากหุ้น VI

เพราะการลงทุนในหุ้น VI สร้างรายได้ที่ไม่เหมือนใคร คนทั้งหลายจึงสนใจมาลงุทนกับหุ้นกลุ่มนี้โดยเฉพาะ ผู้ที่พร้อมรับความเสี่ยงสูงในการลงทุนได้ไม่มาก ผู้ไม่สามารถนั่งเฝ้าหน้าจอดูความผันผวนของตลาดได้ตลอดเวลา รวมถึงผู้ต้องการถือครองหุ้นไว้นาน ๆ หุ้น VI จึงเหมาะสำหรับคนเหล่านี้ เหตุเพราะ เราสามารถได้ผลกำไรจากการถือหุ้น VI ได้สองทางเชียวนะครับ  รายได้จากหุ้น VI นั้นมาจากไหนมั่ง

 

◆  รายได้จากมูลค่าหุ้น

หุ้น VI เป็นหุ้นที่ปัจจัยพื้นฐานเข้มแข็ง ลงทุนไปกับสิ่งใดก็ตามที่เกี่ยวข้องกับ “ ความจำเป็นในการดำรงชีวิตอยู่ของมนุษย์ “ ดังนั้น มูลค่าหุ้น VI จึงลดต่ำลงไม่มาก มีแต่สูงขึ้นไปเรื่อย ๆ อีกทั้งเป็นหุ้นที่มีความต้องการในตลาดสูง การหาโอกาสซื้อทำได้ยาก หาคนปล่อยขายก็มีน้อย มูลค่าจึงดีดขึ้นไปเรื่อย ๆ เมื่อขายหุ้นในกลุ่ม VI จึงมักทำกำไรมากกว่าขาดทุนเสมอ 


◆  รายได้จากการปันผลหุ้น

แทบจะเรียกได้ว่า นี่คือจุดขายของหุ้น VI คือการทำกำไรจากเงินปันผล ผมเชื่อว่ากว่า 80 % ของนักลงทุนในกลุ่มหุ้น VI ไม่มีเวลา และต้องการผลตอบแทนที่คุ้มค่าต่อการลงทุน จึงเลือกหันมาถือหุ้น VI แทนการเก็บเงินไว้ในบัญชีธนาคาร เพราะเงินปันผลที่ได้รับต่อรอบ บ่อยครั้งมีมูลค่าสูงกว่าเงินดอกเบี้ยในบัญชีธนาคารเสียอีก ยิ่งผู้ลงทุนในหุ้น VI มีปัจจัยการเงินที่สูง สามารถซื้อหุ้นในจำนวนมากได้ อัตราเงินตอบแทนจากการปันผลก็สูงตามไปด้วย แทบจะเรียกได้ว่า นั่งกินนอนกินกองเงินอยู่บ้านเลยก็ว่าได้ 

เรื่องที่คุณไม่รู้เกี่ยวกับหุ้น VI

อ่านดูแล้วแทบอยากออกไปเบิกเงินแล้วนำมาซื้อหุ้น VI กันใช่ไหมครับ แต่เดี๋ยวก่อน ไม่มีอะไรที่จะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดทั้งหมด 100 % แม้กระทั่งหุ้น VI ก็มีจุดอ่อนสำหรับการการลงทุนซ่อนอยู่เหมือนกัน อะไรคือจุดอ่อนของหุ้น VI กันแน่ เรามาดูไปพร้อม ๆ กันครับ

 

◆  ผลกำไรที่ดีที่สุดยังคงเป็นการ ขายหุ้น 

ใช่ครับ อ่านหัวข้อไม่ผิดแน่ ก็ไหนว่า ผลประโยชน์ที่คนส่วนใหญ่เลือกลงทุนกับหุ้น VI คือเงินปันผลแล้วจู่ ๆ ทำไหมถึงบอกว่า สิ่งที่ถือว่าเป็นการทำกำไรที่สุดสำหรับการถือหุ้น VI  คือการขายหุ้นนั้นเล่า สำหรับคำตอบข้อนี้ คงต้องกลับไปดูพื้นฐานความจริงของตลาดหุ้นแล้วจะเข้าใจแจ่มแจ้งครับ 


ตลาดหุ้น เปิดมาเพื่อให้โอกาสแก่นักลงทุนเพื่อการซื้อ หรือ ขายหุ้น ใช่ครับ จุดประสงค์แท้จริงในการเปิดตลาดหุ้นคือการเพิ่มมูลค่าหรือเม็ดเงินสำหรับการลงทุนให้กับหุ้นตัวนั้น ดังนั้นผลกำไร ขาดทุน ที่ถือเป็นหลักของตลาดหุ้น ยังคงเป็นการซื้อขายหุ้นอยู่ดี แม้กระทั่ง วอร์เรน บัฟเฟตต์ยังบอกเอาไว้ว่า เมื่อหุ้นใด ๆ ในมือมีมูลค่าสูงเกินกว่าค่าเริ่มต้นที่เราถือครองแล้วนั้น จง 'ขาย ' มันออกไปซะ ผมไม่เคยเห็นใครรวยจากการถือครองหุ้น VI แล้วไม่ทำการขาย นอกจากเจ้าของกิจการที่ปล่อยหุ้น VI ออกมาขายครับ เพราะหุ้น VI ที่นำออกมาขายมันเป็นเพียงไม่กี่ % ของมูลค่าโดยรวมทั้งหมดของกิจการนั้น ๆ ดังนั้น อย่าเฝ้าฝันว่า ฉันจะรวยจากการถือหุ้น VI ไปตลอดกาล เพราะสุดท้าย ผลกำไรขาดทุนที่ดีที่สุดก็ยังคงเป็นการซื้อ ขาย หุ้นนั่นเอง

 

◆  หุ้น VI มีสิทธิเปลี่ยนสถานสภาพ 

ไม่มีอะไรในโลกยั่งยืนในใต้ฟ้า เฉกเช่นเดียวกับสถานะหุ้น VI ในกระดาน ยิ่งเป็นหุ้น VI ที่ขยับมูลค่าไปตามความผันผวนของตลาด ใช่ครับ มูลค่าความผันผวนตรงนี้มันเกิดช้ามาก แต่ไม่ได้หมายความว่า มันไม่เกิดขึ้น โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงระดับนโยบายหลักจากการเปลี่ยนทีมผู้บริหาร เคยเปลี่ยนหุ้น VI ฐานแข็งเป็นแดนมรณาของนักลงทุนไปในทันที เหมือนดั่งกรณี น้ำดำยี่ห้อดังในไทย ที่เคยมีข่าวถอนหุ้นจากตลาดหุ้นไทย เป็นผลทำให้ราคาปรับตัวลงอย่างรุนแรง และส่งผลต่อเงินปันผลที่จะได้  ดังนั้น เมื่อคุณลงทุนในหุ้นด้วยเม็ดเงินจำนวนมาก แต่ราคาหุ้นของคุณมันตกต่ำกว่าค่ากลางหุ้นที่คุณเคยซื้อ เมื่อนั้นมันคือการขาดทุนทันที แม้ว่าคุณจะรอกินปันผลต่อ แต่ก็ไม่เพียงพอในการหักลบกับผลขาดทุนยามมูลค่าหุ้นคงต่ำลงโดยที่มันไม่หวนกลับคืนสู่มูลค่าเดิมอีกเลย ทั้ง ๆ ที่หุ้นตัวนั้น อาจอยู่ในกลุ่มที่เป็นการลงทุนในพื้นฐานที่แข็งแกร่ง อย่าง ภาคอุตสาหกรรมอาหาร หรือ สายการบิน ไงครับ

 

◆  ปันผลไม่ใช่คำตอบของทุกสิ่ง 

ขอบคุณนะที่เตือน แต่ฉันเลือกลงทุนระยะยาวเพื่อการปันผลในหุ้นเท่านั้น หลายท่านอาจคิดอย่างนี้ ซึ่งเป็นความคิดที่ไม่ผิดครับ แต่ปัจจัยของการที่คุณสามารถ “ อยู่ได้ “ โดยถือครองปันผลนั้น คุณคิดว่า คุณจะต้องถือครองหุ้นในปริมาณเท่าไหร่ถึงจะเพียงพอต่อการ “ อยู่ได้ด้วยการกินปันผล “ 

สมมุติ มีหุ้นตัวหนึ่ง ราคา 100 บาท โดยมีการปันผลให้กับผู้ถือหุ้น หุ้นละ 10 บาท  สมมุติว่คุณสามารถมีชีวิตอยู่ได้ด้วยเงินเดือน เดือนละ 10000 บาท เนื่องจากหุ้นปันผลส่วนใหญ่มักมีการปันผลสองครั้งในรอบปี นั่นหมายความว่า คุณจะต้องมีมูลค่าหุ้นสะสมอย่างน้อยจำนวน 6000 หุ้น คุณจึงจะสามารถมีรายได้ 10000 บาทจากปันผลทุกเดือน และคุณคิดว่า เงินลงทุนสำหรับหุ้นราคา 100 บาท สำหรับหุ้น 6000 หุ้นมีมูลค่าเท่าไหร่ครับ 600000 บาทเชียวนะครับ นั่นหมายความว่าคุณต้องภาวนาอย่าให้มูลค่าหุ้นและการปันผลหุ้นของคุณเปลี่ยนแปลงภายในระยะเวลา 5 ปี คุณถึงจะสามารถได้กำไรที่แท้จริงจากการลงทุนในครั้งนี้ อย่างนี้แล้ว คุณยังอยากถือครองหุ้น VI ต่อไปนาน ๆ อีกไหมครับ  เพราะความเปลี่ยนแปลงต่อราคา และ ปันผลยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในตลาดหุ้นครับ  

หุ้นกลุ่ม VI ตัวไหนดี? หลักการเลือกหุ้น VI

ไม่ได้ต้องการสรุปว่า การลงทุน หุ้น VI มันไร้ความหมายแล้ว เพียงแต่นักลงทุนควรทำความรู้จักตลาดให้ถ่องแท้ มิฉะนั้นเม็ดเงินลงทุนของคุณอาจสูญสลายไปในอากาศกับความเข้าใจผิดเรื่อง กำไรจากหุ้น VI ได้มาจากเงินปันผล สุดท้ายนี้ ขอมอบเป็นคาถาสำคัญสำหรับผู้สนใจลงทุนในหุ้น VI ให้จัดสรรพอร์ตการลงทุนดังนี้ครับ


 ◆   ซื้อหุ้นที่คุณรู้จัก ไม่ใช่หุ้นที่คุณชอบ 

คุณรู้จักหุ้นตัวนั้น หรือ แค่ชอบมัน ถ้าคุณแค่ชอบ แต่ไม่รู้จัก ไม่ควรลงทุนในหุ้นตัวนั้น เคยไหมครับซื้อเพราะชอบ แต่ไม่เคยศึกษาวัฏจักรของสิ่งที่คุณจะลงทุน ในขณะที่คุณนำเม็ดเงินเข้าลงทุน อาจเป็นขาลงครั้งสำคัญของหุ้น VI ตัวนั้นแล้ว อย่าซื้อเพราะคุณชอบ แต่จงซื้อเพราะคุณรู้จักหุ้นตัวนั้นดีพอ

 

 ◆   กระจายความเสี่ยงการซื้ออย่างมีวินัย

นักเลงหุ้น VI ที่ประสบความสำเร็จ เทคนิคการซื้อของเขาคือ การกระจายความเสี่ยง ซื้อในจังหวะที่ถูก และกระจายมูลค่าหุ้นออกมาเป็นค่าเฉลี่ยปานกลางที่รับได้ อาจมีแพงกว่าไปบ้างในบางครั้ง แต่ยังคงรักษาฐานการซื้อโดยคำนึงถึงการ “ ขายหุ้น “ เพื่อไม่ให้เกิดการขาดทุนจนเกินไป

 

 ◆   ได้จังหวะขายจงขาย อย่าเสียดาย

อย่าลืมครับ ตลาดหุ้นมีไว้เพื่อระดมทุน มันคือการ “ ซื้อ “ และ “ ขาย “ คนที่ได้กำไรจากการปันผลมีคนเดียวคือ เจ้าของกิจการ จงติดตามข่าวในฐานะเจ้าของบริษัทให้ดี เพราะมันคือเรื่องราวแห่งผลประโยชน์ของคุณ เมื่อใดจังหวะของตลาดมา และคุณพอใจในผลกำไรจากมูลค่าหุ้น VI ที่คุณถือในมือ “ จงขายมันออกไปซะ “ คิดเสียว่า เงินปันผลเป็นดอกเบี้ยที่คุณได้รับ ไม่ใช่ผลกำไรหลักที่คุณเฝ้าหา

บทสรุป

หุ้น VI ยังคงเป็นอะไรที่น่าลงทุน เพียงแต่คุณต้องรู้จักและทำความเข้าใจกับลักษณะของการเป็นหุ้น VI และที่สำคัญ เขาทำกำไรกับหุ้น VI แบบไหน  อย่าหลงติดกับคำแนะนำที่เรียกให้คุณเอาเงินทุนของคุณไปแช่อยู่ในหุ้น VI นาน ๆ โดยที่ยังมีโลกกว้างที่สามารถช่วยคุณสร้างผลกำไรให้งอกเงยใน % ที่สูงกว่าการรอรับปันผลจากหุ้น VI ไม่ว่าคุณเคยได้กำไรจาก VI หรือช้ำใจจาก VI ก็สามารถเริ่มต้นลงทุนใหม่ได้ครับ

*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา


การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่?
บทความที่เกี่ยวข้อง
placeholder
Gold Futures คืออะไร?สามารถซื้อขายได้อย่างไร?บทความนี้จะแนะนำว่า Gold Futures คืออะไร, ข้อดีในการซื้อขาย Gold Futures,ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับ Gold Futures, วิธีการซื้อขาย Gold futures นะคคะ
ผู้เขียน  MitradeInsights
บทความนี้จะแนะนำว่า Gold Futures คืออะไร, ข้อดีในการซื้อขาย Gold Futures,ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับ Gold Futures, วิธีการซื้อขาย Gold futures นะคคะ
placeholder
วิธีดูกราฟราคาทองที่นักลงทุนทองคำต้องรู้ ฉบับมือใหม่ต้องอ่านขึ้นชื่อว่าทองคำ หลายคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่าเป็นสินทรัพย์อันมีค่า ยอดนิยมตลอดปี ไม่ว่าใครก็อยากมีไว้ครอบครอง แต่นักลงทุนมือใหม่หลายคนยังไม่ทราบปัจจัยที่ส่งผลต่อการขึ้นลงของราคาทอง ถ้านักลงทุนสามารถวิเคราะห์และดูสถิติของราคาทองคำเป็น ก็จะรู้ได้ว่าช่วงเวลาใดควรซื้อ ช่วงเวลาใดควรขาย เพื่อสร้างกำไรให้นักลงทุนได้อย่างง่ายดาย เพื่อไม่ให้เสียโอกาสของการลงทุน ไปอ่านในบทความกัน
ผู้เขียน  MitradeInsights
ขึ้นชื่อว่าทองคำ หลายคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่าเป็นสินทรัพย์อันมีค่า ยอดนิยมตลอดปี ไม่ว่าใครก็อยากมีไว้ครอบครอง แต่นักลงทุนมือใหม่หลายคนยังไม่ทราบปัจจัยที่ส่งผลต่อการขึ้นลงของราคาทอง ถ้านักลงทุนสามารถวิเคราะห์และดูสถิติของราคาทองคำเป็น ก็จะรู้ได้ว่าช่วงเวลาใดควรซื้อ ช่วงเวลาใดควรขาย เพื่อสร้างกำไรให้นักลงทุนได้อย่างง่ายดาย เพื่อไม่ให้เสียโอกาสของการลงทุน ไปอ่านในบทความกัน
placeholder
กองทุนรวมทองคำคืออะไรและเลือกยังไงหากใครที่กำลังสนใจและสงสัยว่ากองทุนรวมทองคำคืออะไร เลือกยังไง มีกองทุนแบบไหนให้เลือกบ้าง คราวนี้เราได้รวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจมาไว้ให้แล้ว
ผู้เขียน  MitradeInsights
หากใครที่กำลังสนใจและสงสัยว่ากองทุนรวมทองคำคืออะไร เลือกยังไง มีกองทุนแบบไหนให้เลือกบ้าง คราวนี้เราได้รวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจมาไว้ให้แล้ว
placeholder
Web3.0 คืออะไร? มีความสำคัญต่อวงการ Blockchain มากแค่ไหน? ทุกคนทราบไหมว่าระบบอินเทอร์เน็ตที่เราใช้งานอยู่ในทุกวันนี้คือ Web 2.0 และอีกไม่นานเราก็จะเข้าสู่การใช้งานระบบอินเทอร์เน็ตด้วย Web3.0 เนื้อหาในบทความนี้เราจะพาทุกคนมาศึกษาว่า Web3.0 คืออะไร มีความน่าสนใจมากกว่าตอนนี้แค่ไหน ตามมาดูกันเลย
ผู้เขียน  ชัญญาพัชร์ ประวาสุขInsights
ทุกคนทราบไหมว่าระบบอินเทอร์เน็ตที่เราใช้งานอยู่ในทุกวันนี้คือ Web 2.0 และอีกไม่นานเราก็จะเข้าสู่การใช้งานระบบอินเทอร์เน็ตด้วย Web3.0 เนื้อหาในบทความนี้เราจะพาทุกคนมาศึกษาว่า Web3.0 คืออะไร มีความน่าสนใจมากกว่าตอนนี้แค่ไหน ตามมาดูกันเลย
placeholder
การวางแผนทางการเงินมีอะไรบ้าง? วิธีวางแผนการเงินสำหรับมือใหม่เรื่อง “การวางแผนการเงิน” เป็นเรื่องที่สำคัญเป็นวาระแห่งชาติ ที่ทุกคนต้องใส่ใจ มาลองเรียนรู้วิธีวางแผนการเงินด้วยกัน จะทำให้เพื่อนๆ มีแผนการเงินที่ดีและ พร้อมต่อสู้กับทุกช่วงวิกฤตในชีวิตได้เลยนะครับ
ผู้เขียน  ปรีชา มานพInsights
เรื่อง “การวางแผนการเงิน” เป็นเรื่องที่สำคัญเป็นวาระแห่งชาติ ที่ทุกคนต้องใส่ใจ มาลองเรียนรู้วิธีวางแผนการเงินด้วยกัน จะทำให้เพื่อนๆ มีแผนการเงินที่ดีและ พร้อมต่อสู้กับทุกช่วงวิกฤตในชีวิตได้เลยนะครับ