ความน่าจะเป็นที่เฟดยังคงขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น จะเกิดอะไรขึ้นกับตลาดหุ้นสหรัฐฯต่อไป?

Mitrade
อัพเดทครั้งล่าสุด 01 ก.ย. 2566 06:04 น.
coverImg
แหล่งที่มา: DepositPhotos
สารบัญ
ภามรวมของตลาด1.พาวเวลล์แสดงท่าทีแบบ Hawkish ที่แสดงถึงความน่าจะเป็นที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น2.อันดับเครดิตธนาคารสหรัฐฯ ลดลงอย่างต่อเนื่อง: เงาสะท้อนของวิกฤตการณ์ทางการเงินที่ยังคงอยู่หรือไม่?3.รายงานทางการเงินของ NVIDIA แสดงให้เห็นถึงผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง: มีอะไรรอหุ้นเทคโนโลยีอยู่ข้างหน้านี้?

ภามรวมของตลาด

สัปดาห์ที่แล้ว (21/8/2568) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เกิดความผันผวน โดยดัชนี Dow Jones Industrial Average ลดลง 0.45% ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.82% และดัชนี Nasdaq 100 เพิ่มขึ้น 1.68 % หุ้นยุโรปปรับตัวเพิ่มขึ้นโดยทั่วไป โดยดัชนี European STOXX 600 เพิ่มขึ้น 0.66%

รูปภาพที่แสดง stock market performance (w)

รูปภาพที่แสดง stock  market performance (Y)

1.พาวเวลล์แสดงท่าทีแบบ Hawkish ที่แสดงถึงความน่าจะเป็นที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น

เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม นายพาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ กล่าวสุนทรพจน์ที่การประชุม Jackson Hole Symposium โดยระบุว่า หากมีความจำเป็นเฟดก็พร้อมที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปและคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับสูง เขาเตือนว่าอัตราเงินเฟ้อยังสูงเกินไปและเส้นทางยังคงอีกยาวไกล โดยเป้าหมายเงินเฟ้อคือ 2% ที่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง


พาวเวลล์บอกเป็นนัยว่าหากต้องควบคุมอัตราเงินเฟ้ออาจจะต้องเสียสละการเติบโตด้านเศรษฐกิจและตลาดงาน แต่เนื่องจากในปีนี้ GDP เติบโตเกินความคาดหมายและยังมีความต้องการในตลาดแรงงานอยู่ สัญญาณเหล่านี้อาจนำไปสู่แรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่สูงขึ้นและนโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้น


โดยรวมแล้ว สุนทรพจน์ของพาวเวลล์โน้มเอียงไปแบบ hawkish ตามเครื่องมือ FedWatch ของกลุ่ม CME ความคาดหวังของตลาดสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งภายในปีนี้ได้เพิ่มขึ้นอีกครั้ง โดยมีความน่าจะเป็น 47.9% ที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 25 จุดในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเพิ่มขึ้น 15% จากสัปดาห์ก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม ความน่าจะเป็นที่จะไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายนยังคงสูงอยู่ที่ 80.5%

รูปภาพที่แสดง meeting probabilities

ที่มา: CME

หลังจากคำปราศรัยของพาวเวลล์ หุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงในตอนแรก แต่ต่อมาก็ฟื้นตัวและกลับมาเป็นบวก อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 2 ปีเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดรายวันใกล้กับ 5.10% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีก็ทะลุ 4.28% สู่ราคาสูงสุดใหม่รายวัน


การวิเคราะห์ของ Mitrade :

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนี้สะท้อนถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกอย่างน้อยหนึ่งครั้งที่คาดไว้ภายในปีนี้ ความสนใจมุ่งเน้นไปที่ข้อมูลเงินเฟ้อ PCE ประจำเดือนกรกฎาคมของสัปดาห์นี้ และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนสิงหาคม หากข้อมูลเกินความคาดหมาย จะเพิ่มความน่าจะเป็นที่ธนาคารกลางสหรัฐจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน ส่งผลให้หุ้นสหรัฐฯ ลดลง


2.อันดับเครดิตธนาคารสหรัฐฯ ลดลงอย่างต่อเนื่อง: เงาสะท้อนของวิกฤตการณ์ทางการเงินที่ยังคงอยู่หรือไม่?

หลังจากที่ Moody's ปรับลดอันดับเครดิตของธนาคารขนาดเล็กและขนาดกลางในสหรัฐฯ 10 แห่งเมื่อต้นเดือนนี้ Standard & Poor's ยังได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารในภูมิภาคหลายแห่งในสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา


อุตสาหกรรมการธนาคารของสหรัฐฯ โดยเฉพาะธนาคารขนาดเล็กและขนาดกลาง กำลังเผชิญกับความท้าทาย เช่น เงินฝากไหลออก ต้นทุนที่สูงขึ้น ความเสี่ยงในการจัดการสินทรัพย์และหนี้สิน และความเสี่ยงในอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ ในขณะที่ Fed ได้แนะนำเครื่องมือสภาพคล่อง รวมถึง BTFP เพื่อลดแรงกดดันต่อธนาคาร แต่สถานการณ์โดยพื้รวมแล้วยังไม่ดีขึ้น


นับตั้งแต่การปรับลดอันดับเครดิตเมื่อต้นเดือนสิงหาคม หุ้นธนาคารสหรัฐก็ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ในช่วงเดือนที่ผ่านมา ดัชนีธนาคาร KBW ลดลงมากกว่า 10% และลดลงเมื่อเทียบเป็นรายปีถึง 21.1% จากมุมมองของผลการดำเนินงานของหุ้น อุตสาหกรรมการธนาคารของสหรัฐฯ ยังไม่ฟื้นตัวจากวิกฤตการธนาคารในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา


The Performance of KBW Bank Index (BKX)

ที่มา: TradingView

นักยุทธศาสตร์ที่ Wealth Bank ระบุว่า เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพของอุตสาหกรรมการธนาคารของสหรัฐฯ และระดับหนี้ที่เพิ่มขึ้นยังคงเพิ่มขึ้น อัตราการผิดนัดชำระหนี้ที่เพิ่มขึ้นจึงสร้างแรงกดดันให้กับธนาคารขนาดเล็กและขนาดกลางมากขึ้น การเพิ่มขึ้นของการชำระเงินล่าช้าด้วยบัตรเครดิตของสหรัฐฯ ในปัจจุบันอาจเป็นสัญญาณเตือนถึงช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับเศรษฐกิจสหรัฐฯ


การวิเคราะห์ของ Mitrade:

ตั้งแต่การปรับลดอันดับเครดิตของสหรัฐอเมริกาโดย Fitch ไปจนถึงการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารอเมริกันโดย Moody's และ Standard & Poor's อย่างต่อเนื่อง เห็นได้ชัดว่าความเสี่ยงทางการเงินกำลังสะสม เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐยังคงขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง เพื่อแก้ไขปัญหาพื้นฐานที่ธนาคารเผชิญอยู่ ทางออกที่ดีที่สุดอยู่ที่การหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐจะลดอัตราดอกเบี้ยลง อย่างไรก็ตาม เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ยังต่ำกว่าระดับเป้าหมาย สถานการณ์ของอัตราดอกเบี้ย "สูงและนานขึ้น" จึงยากที่จะเปลี่ยนแปลง ดังนั้นเราจึงต้องระมัดระวังต่อสถานการณ์วิกฤติการธนาคารที่เกิดขึ้นซ้ำๆ เช่นในเดือนมีนาคม


3.รายงานทางการเงินของ NVIDIA แสดงให้เห็นถึงผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง: มีอะไรรอหุ้นเทคโนโลยีอยู่ข้างหน้านี้?

หลังจากที่ตลาดปิดทำการในวันที่ 23 สิงหาคม Nvidia ได้ประกาศผลประกอบการทางการเงินที่เกินความคาดหมายอย่างมาก รายงานเปิดเผยว่ารายรับในไตรมาสที่สองของ Nvidia อยู่ที่ 13.507 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 101% เมื่อเทียบเป็นรายปี ธุรกิจศูนย์ข้อมูลที่ขับเคลื่อนด้วยชิป AI มีการเติบโตเพิ่มขึ้นสองเท่าทั้งรายไตรมาสและรายเดือน ซึ่งเกินความคาดหมายเกือบ 30%


อย่างไรก็ตาม รายงานทางการเงินที่แข็งแกร่งของ Nvidia ไม่ได้ช่วยกระตุ้นตลาดหุ้นอย่างมีนัยสำคัญ ในวันพฤหัสบดี Nvidia เพิ่มขึ้นเพียง 0.1% ในขณะที่ดัชนี Nasdaq 100 ลดลง 2.19% การถกเถียงกันว่าหุ้นแนวคิด AI ยังคงมีช่องทางสำหรับการเติบโตหรือไม่นั้นกำลังเข้มข้นขึ้น


ผู้ที่เชื่อในตลาดกระทิงแย้งว่าความสำเร็จของ Nvidia เป็นการยืนยันถึงเหตุผลของการเพิ่มขึ้นในอนาคตของ AI และไม่ใช่การเกิดฟองสบู่ดอทคอมซ้ำ มีข้อบ่งชี้ว่าบริษัทอินเทอร์เน็ตอย่าง Microsoft กำลังมองหาวิธีใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI เพื่อพัฒนาธุรกิจของตนเอง


ในทางกลับกัน บุคคลที่เชื่อในตลาดหมีเชื่อว่านอกเหนือจาก Nvidia แล้ว จนถึงขณะนี้ยังไม่มีบริษัทเทคโนโลยีอื่นใดที่ทำกำไรจำนวนมากจาก AI ได้ เนื่องจากนักลงทุนตระหนักถึงประสิทธิภาพที่ล้นหลามของ Generative AI ที่เป็นเทคโนโลยีที่ใช้โมเดลเชิงประสิทธิภาพสูง และการขาดแอปพลิเคชันเชิงพาณิชย์ "killer-level" จึงอาจมีความเป็นไปได้ที่ในการประเมินมูลค่าที่เป็น "การปรับตัวครั้งใหญ่และเจ็บปวด" 

NASDAQ 100 PE

การวิเคราะห์ของ Mitrade :

ความกังวลเกี่ยวกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ได้บดบังความกระตือรือร้นเกี่ยวกับ AI เพราะผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นเป็นอันตรายต่อการประเมินมูลค่าหุ้นเทคโนโลยี เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยยังคงอยู่ในระดับสูงเป็นระยะเวลานาน การกระตุ้นโดยแนวคิด AI ต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ จึงคาดว่าจะอ่อนตัวลง ซึ่งนำไปสู่ช่วงที่ทำให้หุ้นเทคโนโลยีเกิดความผันผวน



*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา


การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่?
บทความที่เกี่ยวข้อง
placeholder
หุ้นสหรัฐฯ เปิดสัปดาห์แรกของเดือนกันยายนด้วยภาวะย่ำแย่: เราสามารถคาดหวังอะไรกับอนาคตนี้ได้บ้าง?
ผู้เขียน  Mitrade
placeholder
การจ้างงานนอกภาคเกษตร (NFP) ของสหรัฐอเมริกาในเดือนสิงหาคมมีโอกาสลดความน่าจะเป็นที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย แนะนำให้จับตา Beige Bookในสัปดาห์นี้!การจ้างงานนอกภาคเกษตร (NFP) ในเดือนสิงหาคมของสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่าตลาดงานค่อย ๆ เย็นตัวลง ความน่าจะเป็นที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมก็ลดลงด้วย
ผู้เขียน  Mitrade
การจ้างงานนอกภาคเกษตร (NFP) ในเดือนสิงหาคมของสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่าตลาดงานค่อย ๆ เย็นตัวลง ความน่าจะเป็นที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมก็ลดลงด้วย
placeholder
รายงานการประชุมของ FOMC เอนเอียงไปที่นโยบาย Hawkish, ให้โฟกัสไปที่การประชุมของ Jackson Hole ในสัปดาห์นี้
ผู้เขียน  Mitrade
placeholder
USD/CHF tăng lên gần 0,8680, Thống đốc SNB lo ngại về việc đồng Franc Thụy Sĩ tăng giáUSD/CHF dường như tiếp tục chuỗi tăng bắt đầu vào ngày 11 tháng 1. Hôm thứ Năm, Thống đốc Ngân hàng Quốc gia Thụy Sĩ (SNB) Thomas Jordan đã đưa ra cản
ผู้เขียน  Mitrade
USD/CHF dường như tiếp tục chuỗi tăng bắt đầu vào ngày 11 tháng 1. Hôm thứ Năm, Thống đốc Ngân hàng Quốc gia Thụy Sĩ (SNB) Thomas Jordan đã đưa ra cản
placeholder
Phân tích giá CAD/JPY: Tăng ngày thứ ba liên tiếp, phe đầu cơ giá lên nhắm mục tiêu mức 110,00Cặp CAD/JPY đã kéo dài đợt tăng ba ngày được hỗ trợ bởi tâm lý thị trường lạc quan, khi các nhà giao dịch tìm kiếm rủi ro củng cố chứng khoán Mỹ trong
ผู้เขียน  Mitrade
Cặp CAD/JPY đã kéo dài đợt tăng ba ngày được hỗ trợ bởi tâm lý thị trường lạc quan, khi các nhà giao dịch tìm kiếm rủi ro củng cố chứng khoán Mỹ trong