อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ สูงขึ้นเนื่องจากความกลัวเงินเฟ้อทั่วโลกเพิ่ม
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเนื่องจากข้อมูลเงินเฟ้อทั่วโลกจุดประกายความหวาดกลัว อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้นเป็น 4.320%
- ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของแคนาดาและออสเตรเลียสูงกว่าที่คาดไว้ ส่งผลให้บอนด์ยีลด์ทั่วโลกเพิ่มขึ้น
- โฟกัสเปลี่ยนไปที่รายงาน PCE เดือนพฤษภาคมของสหรัฐฯ โดยคาดว่าจะลดลงเล็กน้อยทั้งอัตราเงินเฟ้อทั่วไปและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นในวันพุธหลังจากบางประเทศเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อซึ่งสูงกว่าที่คาดไว้ สถานการณ์ดังกล่าวเพิ่มความกลัวว่ารายงานดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในเดือนพฤษภาคมที่กําลังจะประกาศในสหรัฐอเมริกาอาจเพิ่มขึ้น
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่สูงขึ้นกดดันทองคํา ผลักดันราคาสู่ระดับต่ำสุดในรอบสองสัปดาห์
เมื่อวันอังคาร ข้อมูลเศรษฐกิจจากแคนาดาแสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อร้อนแรงกว่าที่คาดไว้ เมื่อวันพุธ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของออสเตรเลียเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน สูงสุดที่ 4% ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายเงินเฟ้อของธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA)
จุดสนใจในสัปดาห์นี้จะอยู่ที่มาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดอ้างอิง นั่นคือ PCE เดือนพฤษภาคม ซึ่งคาดว่าจะลดลงจาก 2.7% เป็น 2.6 YoY ในขณะที่ Core PCE คาดว่าจะอยู่ที่ 2.6% ในช่วง 12 เดือนที่นับถึงเดือนพฤษภาคม ลดลงจาก 2.8%
การเปิดเผยข้อมูลที่สําคัญอื่นๆ ได้แก่ การประกาศข้อใูลผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาสที่ 1 ปี 2024 ล่าสุด ยอดคําสั่งซื้อสินค้าคงทน และจํานวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีเพิ่มขึ้น 7 จุดเบสิสเป็น 4.320% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายน สิ่งนี้ผลักดันให้ราคาทองคําแตะระดับต่ำสุดในรอบสองสัปดาห์ที่ 2,293 ดอลลาร์ ก่อนที่จะทรงตัวที่ประมาณ 2,297 ดอลลาร์
ข้อมูลจากคณะกรรมการการค้าชิคาโก (CBOT) แสดงให้เห็นว่าเทรดเดอร์คาดว่าเฟดจะผ่อนคลายนโยบายการเงิน 36 จุดเบสิส (bps) จากข้อมูลสัญญาเก็งอัตราดอกเบี้ยของเฟดในเดือนธันวาคม 2024 ในขณะเดียวกัน CME FedWatch Tool แสดงข้อมูลคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด 25 จุดเบสิสในเดือนกันยายนที่ 56.3% ซึ่งต่ำกว่าที่ 59.5% ในวันอังคาร
คําถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย
อัตราดอกเบี้ยคืออะไร?
อัตราดอกเบี้ยจะถูกเรียกเก็บโดยสถาบันการเงินสําหรับเงินให้กู้ยืมแก่ผู้กู้และจ่ายเป็นดอกเบี้ยให้กับผู้ออมและผู้ฝากเงิน พวกเขาได้รับอิทธิพลจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้พื้นฐานซึ่งกําหนดโดยธนาคารกลางเพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ โดยปกติธนาคารกลางมีอํานาจในการรับรองเสถียรภาพด้านราคา ซึ่งในกรณีส่วนใหญ่หมายถึงการกําหนดเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ประมาณ 2% หากอัตราเงินเฟ้อต่ํากว่าเป้าหมายธนาคารกลางอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้พื้นฐานเพื่อกระตุ้นการปล่อยสินเชื่อและกระตุ้นเศรษฐกิจ หากอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นอย่างมากเหนือ 2% โดยปกติจะส่งผลให้ธนาคารกลางขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้พื้นฐานเพื่อพยายามลดอัตราเงินเฟ้อ
อัตราดอกเบี้ยส่งผลกระทบต่อสกุลเงินอย่างไร?
โดยทั่วไปอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับสกุลเงินของประเทศ เนื่องจากทําให้เป็นสถานที่ที่น่าสนใจยิ่งขึ้นสําหรับนักลงทุนทั่วโลกในการจอดเงินของพวกเขา
อัตราดอกเบี้ยมีอิทธิพลต่อราคาทองคําอย่างไร?
อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นโดยรวมส่งผลกระทบต่อราคาทองคําเนื่องจากจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคําแทนที่จะลงทุนในสินทรัพย์ที่มีดอกเบี้ยหรือวางเงินสดในธนาคาร หากอัตราดอกเบี้ยสูงซึ่งมักจะผลักดันราคาดอลลาร์สหรัฐ (USD) ให้สูงขึ้น และเนื่องจากทองคํามีราคาเป็นดอลลาร์ จึงมีผลทําให้ราคาทองคําลดลง
Fed Funds Rate คืออะไร?
อัตราเงินเฟดเป็นอัตราข้ามคืนที่ธนาคารสหรัฐให้กู้ยืมซึ่งกันและกัน เป็นอัตราพาดหัวที่มักอ้างโดยธนาคารกลางสหรัฐในการประชุม FOMC มันถูกกําหนดเป็นช่วง เช่น 4.75%-5.00% แม้ว่าขีดจํากัดบน (ในกรณีนี้คือ 5.00%) คือตัวเลขที่ยกมา การคาดการณ์ของตลาดสําหรับอัตราดอกเบี้ยของเฟดในอนาคตถูกติดตามโดยเครื่องมือ CME FedWatch ซึ่งกําหนดจํานวนตลาดการเงินที่มีพฤติกรรมเพื่อรอการตัดสินใจนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐในอนาคต
บทความแนะนำ
