การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย Dovish ของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่ 25 Basis Points: แนวโน้มในอนาคตของ Euro/USD จะเป็นอย่างไร?
รีวิวตลาดโดยรวม
สัปดาห์ที่แล้ว (7/24-7/28) ดัชนีดอลลาร์สหรัฐเพิ่มขึ้น 0.6% เงินยูโรอ่อนค่าลงประมาณ 1% และเงินเยนเพิ่มขึ้น 0.5%
ที่มา: MacroMicro
ที่มา: MacroMicro
1.ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ใช้แนวคิดแบบ Dovish กับอัตราดอกเบี้ย: แนวโน้มในอนาคต Euro/US Dollar จะเป็นอย่างไร?
เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้เพิ่มอัตราดอกเบี้ย 25 basis points ตามแผนที่วางไว้และระบุความมุ่งมั่นที่จะรักษาอัตราดอกเบี้ยในระดับที่เข้มงวดเพียงพอหากจำเป็น คริสตีน ลาการ์ด ประธาน ECB แสดงการตัดสินใจที่เปิดกว้างในเดือนกันยายนและต่อ ๆ ไป โดยระบุว่าอาจมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือหยุดชั่วคราว แต่ตัดการลดอัตราดอกเบี้ย ข้อความนี้ถูกมองว่าเป็นแนวคิดแบบ Dovish ที่จะลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในตลาดต่อไป
หลังการประชุม เงินยูโรร่วงลงมามื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ บวกกับข้อมูล PMI ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 24 ซึ่งต่ำกว่าที่คาดไว้ ส่งผลให้คู่ EUR/USD ลดลงเกือบ 1% ในสัปดาห์ที่แล้ว
ทิศทางในอนาคตของ EUR/USD จะขึ้นอยู่กับข้อมูลทางเศรษฐกิจและความแตกต่างของนโยบายการเงินระหว่างยุโรปและสหรัฐอเมริกาเป็นหลัก เนื่องจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อพื้นฐานในยูโรโซนยังคงมีมากกว่าแรงกดดันในสหรัฐฯ การคาดการณ์ของตลาดสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยโดย ECB ในเดือนกันยายนยังคงแข็งแกร่งกว่าแรงกดดันของธนาคารกลางสหรัฐ สำหรับในระยะกลางนี้จะช่วยสนับสนุนเงินยูโรได้บางส่วน
จากข้อมูลล่าสุดของ Eurozone's harmonized CPI เพิ่มขึ้น 5.3% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนกรกฎาคม ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ หากไม่รวมราคาอาหารและพลังงานที่ผันผวน CPI หลักของยูโรโซนที่สอดคล้องกันเพิ่มขึ้น 5.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งสูงกว่าที่คาดไว้ 5.4% ที่เป็นการบ่งชี้ถึงภาวะเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่อง
ที่มา: MacroMicro
การวิเคราะห์ของ Mitrade：
เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอในยูโรโซนและแถลงการณ์ที่เป็นประเด็นจาก คริสตีน ลาการ์ด การคาดการณ์ของตลาดเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป (ECB) จึงค่อย ๆ ลดลง อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเงินเฟ้อยังคงสนับสนุนความเข้มงวดต่อไป ความสนใจมุ่งเน้นไปที่การตัดสินใจอัตราดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ (BOE) ในวันพฤหัสบดีนี้ หาก BOE ใช้นโยบาย Hawkish และเพิ่มอัตราดอกเบี้บ ก็อาจทำให้ดอกเบี้ยของ GBP/USD เพิ่มขึ้นและอาจส่งผลดีต่อ EUR/USD ก็เป็นได้
จากมุมมองทางเทคนิค EUR/USD ลดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 21 วัน ซึ่งเพิ่มความน่าจะเป็นของการดีดตัวในระยะสั้น แนวต้านอยู่ที่ 1.11 ขณะที่แนวรับอยู่ที่ 1.09
ที่มา：TradingView
2.BOJ ปรับนโยบาย YCC อย่างกะทันหัน! เงินเยนของญี่ปุ่นตั้งขึ้นสำหรับการชุมนุมครั้งใหญ่หรือไม่?
เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นได้ประกาศการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยครั้งล่าสุด อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่สำคัญยังคงไม่เปลี่ยนแปลงที่ -0.1% และช่วงเป้าหมายสำหรับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปีคงไว้ที่ ±0.5% แต่มีการเปลี่ยนแปลงถ้อยคำ ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นระบุว่าขีดจำกัดบนและล่างเหล่านี้เป็นเพียงจุดอ้างอิงเท่านั้น และจะใช้ความยืดหยุ่นในการควบคุมมากขึ้น ธนาคารเตรียมซื้อพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปีด้วยอัตราดอกเบี้ยคงที่ 1% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิม 0.5%
ดังกล่าวนี้จึงหมายความว่าขณะนี้ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นยินดีที่จะทนต่อการเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีเป็น 1.0% และ "ขีดจำกัดสูงสุดใหม่" สำหรับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรกำหนดไว้ที่ 1% นักลงทุนบางคนมองว่านี่เป็นการโหมโรงไปสู่การออกจากมาตรการกระตุ้นทางการเงินขนาดใหญ่ในที่สุด
หลังจากการประกาศนั้น เงินเยนก็แข็งค่าขึ้นในระหว่างการซื้อขาย แต่นายฮารุฮิโกะ คูโรดะ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นกล่าวในภายหลังว่า การปรับ Yield Curve Control (YCC) ไม่ได้เปลี่ยนท่าทีที่ผ่อนคลายของธนาคาร ซึ่งทำให้เงินเยนผันผวนและอ่อนค่าลงในที่สุด
สถาบันบางแห่งเชื่อว่าการประชุมครั้งนี้ส่งสัญญาณถึงท่าทีที่ไม่แน่นอน โดยสัญญาณดังกล่าวซ่อนอยู่ในการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในปีหน้า
ในการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อล่าสุดที่เผยแพร่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา สมาชิกของคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นได้เพิ่มการคาดการณ์ CPI เฉลี่ยสำหรับปีงบประมาณ 2023 อย่างมีนัยสำคัญจาก 1.8% ในเดือนเมษายนเป็น 2.5% อย่างไรก็ตาม การคาดการณ์ CPI เฉลี่ยสำหรับปีงบประมาณ 2024 นั้นลดลงจาก 2% ในเดือนเมษายนเป็น 1.9% ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายของธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น
ที่มา: Bloomberg
การวิเคราะห์ของ Mitrade：
มาตรการ Yield curve control (YCC) จะไม่นำไปสู่การเพิ่มอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่สำคัญ (-0.1%) โดยตรง เนื่องจากวัฏจักรที่ตึงตัวขึ้นในสหรัฐอเมริกาและยุโรปดูเหมือนจะเข้าสู่ช่วงสุดท้ายแล้ว แรงกดดันต่ออัตราดอกเบี้ยจึงน้อยลง ดังนั้นเราจึงเชื่อว่าโอกาสที่ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นจะปรับนโยบายการเงินอย่างมีนัยสำคัญในระยะกลาง (หนึ่งไตรมาส) อยู่ในระดับต่ำ อย่างไรก็ตาม ในระยะยาว มีความเป็นไปได้ที่ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นจะเข้าสู่ภาวะปกติ และเรายังคงมุมมองที่เป็นบวกต่อเงินเยน
จากมุมมองทางเทคนิค USD/JPY ทะลุระดับสำคัญที่ 141 และปัจจุบันอยู่เหนือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 21 วัน ซึ่งบ่งชี้ว่ามีแนวโน้มที่จะประสบกับความผันผวนของขอบเขตในระยะสั้น แนวต้านอยู่ที่ 145 แนวรับอยู่ที่ 138
ที่มา：TradingView
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
