5 เว็บเทรด Bitcoin ต่างประเทศที่มีความน่าเชื่อถือสูง

0 นาที
อัพเดทครั้งล่าสุด 15 มิ.ย. 2566 04:55 น.
coverImg
แหล่งที่มา: DepositPhotos

จากกระแสความนิยมของนักลงทุนที่ทุกวันนี้ทำให้การเทรด bitcoin กลายเป็นทางเลือกการลงทุนหลักที่สร้างผลกำไรอย่างงดงาม โดยในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้การเทรด bitcoin โดยเลือกผู้ให้บริการจากต่างประเทศกลายเป็นวิธีการลงทุนที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในหมู่นักลงทุนชาวไทย วันนี้เราจึงได้รวบรวม 5 เว็บเทรด bitcoin ต่างประเทศให้กับนักลงทุนทุกท่าน

การเทรด bitcoin กับเว็บเทรด bitcoin ต่างประเทศมีข้อดีอะไร?

ก่อนอื่นเลยต้องขอขยายข้อสงสัยเกี่ยวกับเว็บเทรด bitcoin ต่างประเทศก่อนว่าหมายถึงอะไร? เว็บเทรด bitcoin ต่างประเทศจริงๆ แล้วคือการซื้อ-ขาย bitcoin ผ่านโบรกเกอร์ (Broker) โดยนักลงทุนชาวไทยส่วนใหญ่จะเข้าใจกันในชื่อ Forex หรือ CFD ซึ่งทั้งสองโบรกเกอร์นี้มีจุดเด่นในวิธีการลงทุนที่สำคัญคือ นักลงทุนไม่จำเป็นต้องซื้อ bitcoin เหล่านั้นจริงๆ และสามารถทำกำไรได้จากการเคลื่อนไหวของราคา bitcoin ได้อีกด้วย ทั้งนี้การเทรด bitcoin กับเว็บต่างประเทศยังสร้างโอกาสในการทำกำไรได้หลายช่องทางมากยิ่งขึ้น เพราะไม่ว่าราคา bitcoin จะเคลื่อนไหวในทิศทางขึ้นหรือลง คุณก็สามารถลงทุนได้ โดยหากคุณกำลังมองว่าราคาของ bitcoin จะมีการขยับตัวขึ้นก็เปิดสถานะซื้อ แต่หากมองว่าจะมีการขยับตัวลงก็ให้เปิดสถานะขาย และรอจนกว่าราคาของ bitcoin จะเคลื่อนไปในทิศทางที่คุณคาดหมายเอาไว้ก็สามารถปิดสถานะซื้อ-ขายเพื่อรับผลกำไร


นอกจากนี้ประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับการเทรด bitcoin ในเว็บต่างประเทศยังรวมไปถึงข้อเสนอทางด้าน “เลเวอเรจ (Leverage)” หรือเครื่องมือทางการเงินที่จะเพิ่มขนาดผลลัพธ์ในการทำกำไรของคุณให้มากกว่าปกติ แม้ว่ามูลค่าเงินที่นักลงทุนมีอยู่จริงจะน้อยแต่เลเวอเรจจะช่วยให้คุณเทรด bitcoin ในขนาดการลงทุนที่มากกว่าปกติได้ ซึ่งแน่นอนว่าผลกำไรที่คุณจะได้ก็ย่อมสูงขึ้น แต่การเลือกใช้วิธีนี้จำเป็นต้องศึกษาเทคนิคการตั้ง Stop loss เพราะถ้าเปลี่ยนเป็นการขาดทุนก็จะขาดทุนในปริมาณที่มากเช่นเดียวกัน

เลือกเว็บเทรด bitcoin ต่างประเทศยังไง?

หากคุณเป็นหนึ่งคนที่อยากเทรด bitcoin กับเว็บต่างประเทศแต่ยังไม่มีความเข้าใจและประสบการณ์ในการพิจารณาความเหมาะสม วันนี้เราจะตีแผ่ความเข้าใจในการเลือกเว็บไซต์ที่ต้องบอกก่อนเลยว่าไม่มีเว็บไหนดีที่สุดหรือคุ้มที่สุด แต่คุณต้องเลือกเว็บที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณให้ได้มากที่สุด โดยก่อนการตัดสินใจเลือกใช้บริการ นี่คือประเด็นที่คุณต้องพิจารณาเป็นพิเศษ


1. ความปลอดภัย

สิ่งแรกที่สำคัญที่สุดคือ “ความปลอดภัยของโบรกเกอร์” ปลอดภัยในที่นี้คือการดำเนินงาน การให้บริการ และความถูกต้อง โบรกเกอร์ที่ดีจะต้องมีความน่าเชื่อถือแสดงผ่านเอกสารการจดทะเบียนที่ปรากฎไว้อย่างชัดเจน เพราะในปัจจุบันนี้มีโบรกเกอร์ที่ดำเนินงานแบบผิดกฎหมายเป็นจำนวนมาก นักลงทุนรุ่นใหม่ควรศึกษาที่มาของเว็บไซต์อย่างรอบครอบ


2. ความปลอดภัยของเงินทุน

จะมั่นใจได้อย่างไรว่าเงินทุกบาททุกสตางค์ที่คุณฝากเข้าไปในบัญชีเพื่อเป็นเงินทุนในการเทรดจะปลอดภัยอยู่ครบจำนวน? วิธีตรวจสอบง่ายๆ คือการศึกษาว่าโบรกเกอร์นั้นๆ มีวิธีการรักษาเงินทุนของสมาชิกแต่ละท่านอย่างไร ซึ่งปกติแล้วโบรกเกอร์ที่ดีจะมีการแยกบัญชีของสมาชิกแต่ละท่านอยู่แล้ว นั่นหมายความว่าข้อมูลหรือธุรกรรมทางการเงินในแต่ละบัญชีจะสามารถ Track และ Trace ได้ตลอด จะต้องมีการแจ้งเตือนข้อมูลจำนวนเงินฝากหรือรายการถอนเมื่อมีการใช้งานอยู่สม่ำเสมอ นอกจากนี้หากโบรกเกอร์มีการนำเทคโนโลยีบล็อคเชนเข้ามาจัดการด้านการเงินจะยิ่งเสริมความมั่นใจด้านความปลอดภัยยิ่งขึ้นไปอีก


3. ค่าคอมมิชชั่น & สเปรด

อีกหนึ่งเรื่องใกล้ตัวที่คุณมักจะมองข้าม “ค่าคอมมิชชั่น” คือสิ่งที่แทบจะทุกโบรกเกอร์กำหนดประเด็นนี้ขึ้นมาเพื่อเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากนักลงทุนทุกท่านที่มีการออกคำสั่งซื้อหรือขายในแต่ละครั้ง โดยค่าคอมมิชชั่นดังกล่าวจะมาจากปริมาณสเปรด (Spread) ของแต่ละ bitcoin ที่คุณเลือกลงทุน ซึ่งหากโบรกเกอร์ไหนมีการเรียกเก็บค่าคอมมิชชั่นหรือมีสเปรดที่มากจนเกินไป ก็จะสร้างภาระด้านต้นทุนให้นักลงทุนแบกรับเพิ่มเติมส่งผลต่อผลกำไรที่น้อยลงอีกด้วย ดังนั้นการศึกษาและเปรียบเทียบโบรกเกอร์จากหลายๆ แหล่งนับเป็นสิ่งจำเป็น


4. ธุรกรรมทางการเงิน

การทำธุรกรรมทางการเงิน แต่ละโบรกเกอร์จำเป็นที่ต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ทั้งในด้านความแม่นยำ ความถูกต้อง และความรวดเร็ว นักลงทุนต้องศึกษาว่าโบรกเกอร์ที่คุณเลือกมีช่องทางการฝากเงิน-การถอนเงินที่หลากหลายหรือไม่เช่น ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง, Debit and Credit card, ATM, Banking เป็นต้น นอกจากนี้บางโบรกเกอร์อาจมีค่าธรรมเนียมการฝากเงิน-การถอนเงินที่สูงเกินความจำเป็น จึงเป็นประเด็นที่นักลงทุนต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ


5. แพลตฟอร์มการเทรด

ปัจจุบันนี้หลายโบรกเกอร์พยายามยกระดับการให้บริการเพื่อสอดรับกับความต้องการของนักลงทุนมากกว่าที่เคย ดังนั้นเมื่อคุณมีโอกาสในการเลือกผู้ให้บริการก็ควรศึกษาวิธีการใช้แพลตฟอร์มในการเทรด มีการนำเสนอว่ามีฟังก์ชั่นหรือเครื่องมือที่ใช้งานได้อย่างสะดวกสบายบนพื้นฐานของประสิทธิภาพหรือไม่ นอกจากนี้ต้องตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งานที่ส่วนใหญ่ต้องเรียบง่าย เข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว และต้องอัพเดทอยู่ตลอดเวลา


6. เครื่องมือช่วยการเทรดต่าง ๆ

นักลงทุนสายเทคนิคหลายคนคงรู้สึกพึงพอใจหากโบรกเกอร์ที่ตนเลือกใช้บริการมีการจัดเตรียมเครื่องมือที่ช่วยให้การเทรดของคุณมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่น อินดิเคเตอร์ (Indicators), ตารางการใช้เครื่องมือด้านเทคนิค (Technical chart), กราฟราคาเรียลไทม์, ปฏิทินเศรษฐกิจ, เครื่องมือจัดการความเสี่ยงอย่าง Stop loss/Trailing stop, กลยุทธ์การลงทุน (Investment Strategy Insights), ข่าวสารแบบเรียลไทม์ (Stock & Forex Realtime Quotes)


7. บริการลูกค้า

โบรกเกอร์ที่ดีควรมีเจ้าหน้าที่ที่คอยให้คำแนะนำหรือตอบข้อสงสัยของลูกค้าได้ตลอดเวลาหรือ Live Chat เพื่อการแก้ไขปัญหาอย่างเท่าทันและมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญควรสื่อสารได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษเพื่อรองรับลูกค้าได้อย่างหลากหลาย


8. บัญชีเทรดทดลอง

นักลงทุนหน้าใหม่ที่ยังไม่เคยผ่านสนามจริง จะเป็นการดีถ้าคุณจะมองหาโบรกเกอร์ที่จัดเตรียมบัญชีเทรดทดลองให้แก่สมาชิก โดยนักลงทุนสามารถลงทุนได้เหมือนจริงทุกประการผ่านการจำลองนี้ เพื่อให้ผู้เล่นคุ้นชินกับฟังก์ชั่นและเครื่องมือของแต่ละโบรกเกอร์


9. โปรโมชั่น

ประเด็นด้านโปรโมชั่นถือเป็นจุดที่อาจทำให้นักลงทุนหลายท่านเปลี่ยนใจในวินาทีสุดท้ายเลยก็ได้ เพราะการลงทุนกับเว็บเทรด bitcoin ต่างประเทศ โปรโมชั่นจะช่วยสร้างข้อได้เปรียบทางการลงทุนให้แก่เทรดเดอร์ ไม่ว่าจะเป็นโบนัสสำหรับการฝากเงิน, ได้รับสิทธิ์ทดลองเล่นฟรี เป็นต้น

5 เว็บเทรด bitcoin ต่างประเทศ

เพื่อสะท้อนมุมมองของการเลือกเว็บเทรด เราได้เรียบเรียงและนำเสนอ 5 เว็บเทรด bitcoin ต่างประเทศที่นักลงทุนส่วนใหญ่เลือกใช้บริการ และคาดว่าน่าจะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของท่านผู้อ่าน โดยสิ่งที่นักลงทุนควรตระหนักอยู่เสมอคือโปรโมชั่นของแต่ละโบรกเกอร์ที่มักมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ คุณควรศึกษาเงื่อนไขและวิธีการใช้งานให้รอบคอบ ซึ่งเราได้ตัดสินใจเลือกโดยใช้ปัจจัยทั้ง 9 ข้อของการเลือกเว็บเทรด bitcoin โดยจะมีเว็บไหนกันบ้างนั้นไปชมกันได้เลย


1 Mitrade 

อันดับที่หนึ่งนี้ขอมอบให้ Mitrade โบรกเกอร์ที่คนไทยหลายคนรู้จักเป็นอย่างดีและผู้อ่านหลายคนคงเป็นสมาชิกของโบรกเกอร์นี้กันบ้างแล้ว ผ่านบนแพลตฟอร์มที่มีการนำทัศนวิสัยด้านองค์ความรู้ของเทคโนโลยีคุณภาพสูงมาปรับใช้บนพื้นฐานของความปลอดภัยที่ผู้ใช้งานให้ความไว้วางใจมาตลอดหลายปี


Mitrade การันตีความน่าเชื่อถือด้วยการควบคุมและการกำกับดูแลที่อยู่ภายใต้ Australian Securities and Investments Commission (ASIC) และถือใบอนุญาตของ Australian Financial Services Licence (AFSL) หมายเลขที่ 398528 ที่นอกจากจะสะท้อนถึงการทำงานที่มีแบบแผนแล้ว นักลงทุนยังได้รับประสบการณ์ด้านการลงทุนจากทีมงานที่มากความสามารถอีกด้วย 


ในส่วนงานด้านธุรกรรมทางการเงินก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Mitrade เป็นอันดับหนึ่งของใครหลายคนเพราะช่องทางการฝากเงิน-ถอนเงินมีให้เลือกอย่างหลากหลาย ที่สำคัญสามารถทำธุรกรรมผ่านธนาคารออนไลน์ไทย (Online Thai Banking) ได้อีกด้วย และเงินทุนของนักลงทุนจะถูกเก็บแยกไว้ในบัญชีประเภททรัสต์ภายใต้ข้อกำหนดของประเทศออสเตรเลีย


สำหรับความกังวลด้านต้นทุนที่เทรดเดอร์หลายคนต้องแบกรับทั้งค่าคอมมิชชั่นจากสเปรดหรือจะเป็นค่าธรรมเนียมอื่นๆ บอกได้เลยว่า Mitrade เข้าใจนักลงทุนเป็นอย่างดีจึงกำหนดให้ไม่มีค่าคอมมิชชั่นและสเปรดต่ำ ลดภาระด้านต้นทุนที่ต้องแบกรับและสร้างโอกาสการทำกำไรในระยะยาวอีกด้วย


การให้ความสำคัญกับเป้าหมายด้านผลกำไรที่นักลงทุนคาดหวัง Mitrade เองก็พยายามจัดเตรียมและส่งมอบบริการที่มีประสิทธิภาพให้แก่นักลงทุนอย่างเช่น “แพลตฟอร์มในการเทรด” ที่ทางโบรกเกอร์ได้ให้ความสำคัญและพัฒนาฟังก์ชั่นให้ออกมาตอบโจทย์กับผู้ใช้บริการมากที่สุด ซึ่ง Mitrade มุ่งเน้นให้แพลตฟอร์มต้อง ‘trading simplified’ ใช้งานที่เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน เหมาะกับเทรดเดอร์มือใหม่และเทรดเดอร์ในวงการ Bitcoin ไม่เพียงเท่านั้น Mitrade ยังเอาใจนักลงทุนสายเทคนิคที่มีความจำเป็นต้องใช้เครื่องมือช่วยเทรดต่างๆ เช่น Indicators เพื่อบอกจุดซื้อขาย, แหล่งข่าวสารข้อมูลเพื่อศึกษาการลงทุน, กระจายความเสียงด้วยเครื่องมือ Stop loss/Trailing stop เป็นต้น


ด้วยความมุ่งมั่นที่ต้องการมอบบริการและประสบการณ์ลงทุนที่ดีให้แก่เทรดเดอร์ Mitrade จึงจัดเตรียมเจ้าหน้าที่เพื่อตอบข้อสงสัยหรือข้อแนะนำเป็นภาษาไทยแก่นักลงทุนตลอด 24 ชั่วโมงทั้ง 5 วันทำการ ซึ่งจะทำให้การสื่อสารเกิดประสิทธิผลสูงสุด


เทรด bitcoin กับ Mitrade เดี๋ยวนี้ >      


2 Plus500 

พลาดไม่ได้กับอีกหนึ่งโบรกเกอร์ยอดนิยมจากประเทศอิสราเอล Plus500 ที่ก่อตั้งเมื่อปี 2551 ด้วยการการันตีจากสถาบันชื่อดังหลายแห่งอย่าง the UK's Financial Conduct Authority (FCA) และ the Australian Securities and Investments Commission (ASIC) จึงไม่แปลกที่ผู้ใช้บริการต่างเทคะแนนในเรื่องความปลอดภัยให้กับ Plus500


จุดเด่นของ Plus 500 คงอยู่ที่ความง่ายของวิธีการใช้งาน แพลตฟอร์มบนมือถือที่ออกแบบและปรับปรุงให้เข้ากับพฤติกรรมการเทรดของนักลงทุน และวิธีการเปิดบัญชีแบบไร้รอยต่อ นอกจากนี้ค่าธรรมเนียมเมื่อเปรียบเทียบแล้วอยู่ในระดับที่ต่ำ นักลงทุนสามารถจ่ายได้


3 eToro 

โบรกเกอร์ที่เพิ่งเข้ามาตีตลาดในไทยได้ไม่นาน แต่กลับสร้างกระแสตอบรับที่ค่อนข้างดี ซึ่ง eToro ก่อตั้งเมื่อปี 2550 อยู่ในเมืองลอนดอน, ประเทศอังกฤษ และ ลีมาซอล, ประเทศไซปรัส ซึ่งหากไปถามความเห็นนักลงทุนต่างประเทศคงได้รับเสียงสนับสนุนเป็นอย่างดี และในตอนนี้มีการพัฒนาหน้าเว็บไซต์ที่รองรับภาษาไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว


หากพิจารณาด้านความน่าเชื่อถือ eToro เป็นเว็บเทรด bitcoin ต่างประเทศที่คนทั่วโลกรู้จักมาอย่างยาวนาน และมีใบอนุญาตการให้บริการที่แสดงอยู่บนหน้าเว็บ ถึงนี้ในเรื่องความปลอดภัยเองก็ถือว่าไว้วางใจได้เนื่องจากระบบการดูแลรักษาที่ใช้เทคโนโลยีเป็นตัวช่วยสำคัญ


4 Admiral Markets 

ด้วยความโดดเด่นของระบบซื้อขาย และข้อมูลด้านตลาดที่จัดเตรียมให้นักลงทุนอย่างต่อเนื่องผ่านข้อมูลเชิงลึกด้วยการวิเคราะห์ชั้นสูง ประสบการณ์ที่เป็นแต้มต่อจากการก่อตั้งเมื่อปี 2544 ภายใต้การจดทะเบียนกับ Financial Conduct Authority (FCA) และ Australian Securities & Investment Commission (ASIC) เป็นอีกหนึ่งโบรกเกอร์ที่มุ่งเน้นด้านความปลอดภัยในการซื้อขาย


กว่า 3,000 รายการที่ Admiral Markets มอบข้อเสนอเกี่ยวกับ CFD ทำให้นักลงทุนที่เข้ามาใช้บริการมีโอกาสในการทำกำไรที่หลากหลายกว่าเดิม ผ่านรูปแบบบัญชีถึง 4 ชนิดที่คุณจะเปิดกับ Admiral Markets ซึ่งจะมีค่าธรรมเนียมที่ต่างกันออกไป โดยจะรวมค่าใช้จ่ายเป็นราคาเดียวเพื่อความสะดวกสบายต่อการวิเคราะห์แนวทางในการลงทุน


5 Capital 

Capital ถือเป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ระดับโลก ตั้งอยู่ในประเทศอังกฤษ, ไซปรัส และเบลารุส เริ่มให้บริการเมื่อปี 2561 และจดทะเบียนกับ Financial Conduct Authority (FCA) อันจะสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ใช้บริการ


นักลงทุนหลายคนหันมาใช้บริการของ Capital เนื่องจากสภาพแวดล้อมในการซื้อขายบิทคอยนี่มีต้นทุนต่ำสร้างข้อได้เปรียบให้ได้ทั้งลูกค้าสถาบันและลูกค้าทั่วไป ซึ่งเงินที่ใช้ในการฝากก็ไม่สูงเอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้ที่ยังใหม่กับสนามการลงทุน ที่สำคัญการบริหารงานจะใช้ AI เป็นส่วนหนึ่งที่ต้องรักษาความปลอดภัยและความรวดเร็วในการใช้บริการของนักลงทุน

สำหรับนักลงทุนท่านไหนที่กำลังมอบหาโอกาสใหม่ๆ ในการเทรดบิดคอยน์โดยไม่ต้องซื้อหรือเป็นเจ้าของในราคาที่สูงเกินงบ โบรกเกอร์เหล่านี้ช่วยคุณได้เพราะนอกจาก Leverage ที่สูงแล้ว โอกาสในการเทรดสินค้ายังเอื้อให้คุณทำกำไรได้ทั้งทิศขาขึ้นและขาลง ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ปัจจัยสำคัญที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในการทำกำไรอย่าง “โบรกเกอร์” นับเป็นประเด็นสำคัญที่นักลงทุนต้องหมั่นศึกษาและเลือกผู้ให้บริการที่ตอบโจทย์การใช้งานของคุณให้ได้มากที่สุด อาจใช้ปัจจัยข้างต้นในการตัดสินใจควบคู่ไปกับ “รีวิวอันดับผู้ให้บริการ” ที่จะไม่ทำให้คุณต้องใช้เวลานานมากเกินไป ปรับแผนการลงทุนให้เข้ากับพอร์ตได้แล้ววันนี้เพื่อความยั่งยืนของการทำกำไรในระยะยาว

เนื้อหาของบทความนี้เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนบทความ ไม่สามารถใช้เป็นคำแนะนำการลงทุนได้ เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้นและผู้อ่านไม่ควรใช้บทความนี้เป็นพื้นฐานการลงทุนใด ๆ Mitrade ไม่รับผิดชอบต่อผลลัพธ์ใด ๆ ตามบทความนี้และไม่รับประกันความถูกต้องของเนื้อหาของบทความนี้

บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่?
บทความที่เกี่ยวข้อง