KNC Coin คืออะไร เหรียญ KNC ดีไหม? อนาคตจะเป็นอย่างไร?

6 นาที
อัพเดทครั้งล่าสุด 13 มิ.ย. 2566 02:11 น.
coverImg
แหล่งที่มา: DepositPhotos

แม้ตลาดคริปโตเคอเรนซีในทุกวันนี้จะค่อนข้างผันผวน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุด นี่จึงเป็นเหตุผลที่เทรดเดอร์หลายคนต่างผันตัวเข้ามาเล่นในตลาดนี้กันอย่างต่อเนื่อง แล้วคุณล่ะคิดยังไงกับการลงทุนในคริปโตเคอเรนซี? ในบทความนี้ เราจะอธิบายกันแบบเจาะลึกว่า KNC เป็นเหรียญอะไรกันแน่? การทำงานและทีมหลังบ้านของสกุลเงินนี้เป็นอย่างไร? แล้ว Kyber Network ที่เห็นในข่าวอยู่บ่อยๆ นั้นคืออะไรกันแน่? ร่วมค้นหาคำตอบไปพร้อมๆ กับเราได้ที่นี่!

KNC Coin คืออะไร?

KNC Coin คือ เหรียญคริปโทเคอร์เรนซีที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อการใช้ประโยชน์ในรูปแบบของ Utility Token โดยจะมีระบบนิเวศ Kyber Network ที่ใช้เป็นแอปพลิเคชั่นในการแลกเปลี่ยนเงินดิจิทัลได้อย่างรวดเร็ว ภายใต้การทำงานของเทคโนโลยี Ethereum blockchain ร่วมกับโปรโตคอลต่างๆ ที่มีส่วนสำคัญในการกระจายอำนาจและควบคุมปริมาณให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม


Kyber Network เป็นเครือข่ายที่ถูกออกแบบให้ใช้งานบนแอปพลิเคชัน ซึ่งจะให้บริการภายใต้การทำงานของบล็อกเชนและโปรโตคอลต่างๆ ส่งผลให้เกิดสภาพคล่องแบบกระจายอำนาจ สามารถแลกเปลี่ยนเหรียญและทำธุรกรรมได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย


ซึ่งในส่วนของเหรียญ KNC ก็จะถูกแจกจ่ายในรูปแบบของโทเคนดิจิทัล ซึ่งจะเน้นที่การใช้ประโยชน์ในเครือข่าย เพื่อกระจายผลตอบแทนและปรับลดปริมาณโดยพิจารณาจากการใช้งานเป็นหลัก


จุดเริ่มต้นของ KNC Coin

โดยเหรียญได้เริ่มใช้งานในครั้งแรกเมื่อปี 2017 ภายใต้การบริหารงานที่เป็นมืออาชีพ เพราะนอกจากจะจบการศึกษาด้านคอมพิวเตอร์มาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำแล้ว ยังอยู่เบื้องหลังการออกแบบและพัฒนาโมเดล Kyber Network ที่มี Victor Tran ดำรงตำแหน่งเป็น CEO คนปัจจุบัน


โดยในช่วงเดือนกันยายนในปีเดียวกันกับที่ Kyber เปิดตัวขึ้น พวกเขาก็สามารถระดมเงินทุนได้สูงถึง 52 ล้านดอลลาร์ พร้อมเปิดตัว mainnet ในปี 2018 


KNC Coin ใช้มาทำอะไรได้บ้าง?

จริงๆ แล้วเหรียญ knc ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้ในการรับสิทธิประโยชน์และถือครองความเป็นเจ้าของบน Kyber Network ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยน Token จาก Protocol อื่นๆ ที่ทำงานภายใต้ระบบ On-chain ทุกท่านสามารถทำธุรกรรมได้แบบ Real-Time ปราศจากการควบคุมจากตัวกลาง ตอบโจทย์ในด้านของการลงทุน และมีสภาพคล่องที่สูงอีกด้วย


- KNC Coin สามารถใช้ในการแลกเปลี่ยนสินค้า หรือบริการต่างๆ ที่รองรับ e-Wallet และ บัตร VISA รวมถึงการชำระเงินผ่านร้านที่ติดตั้งและอ่านบัตรผ่านเครื่อง PundiX อีกด้วย


- สามารถแลกเปลี่ยน Token แบบไม่ต้องมีตัวกลาง ผ่านบน Wallet หรือ ทางเว็บไซต์ที่รองรับ


- มีส่วนร่วมในการตรวจสอบธุรกรรม และ มีสิทธิ์ในการตัดสินใจ สำหรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต


- ภายหลังที่ Kyber Network มีการบริหารแบบ DAO อย่างเต็มตัว ผู้ถือเหรียญ knc ก็สามารถ Staking หรือ TokenLock เพื่อรับค่าธรรมเนียมได้ง่ายๆ


- สามารถใช้ประโยชน์จาก dApps เพี่อปรับพอร์ตการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการทำงานของ Kyber Protocol ที่โปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้

KNC Coin จัดสรรอย่างไร? การไหลเวียนเป็นอย่างไร?

การบริหารจัดการซัพพลายของ KNC จะเป็นหน้าที่ของ Liquidity Pool ซึ่งรวบรวมสภาพคล่องมาจากทั้งทาง Market Maker, Decentralized Exchange และผู้ถือครองเหรียญ โดยปัจจุบัน จะมีการจำกัดการหมุนเวียนของ KNC Coin ไว้ที่ราวๆ 226 ล้านหน่วย แต่ในตารางเทรดจะพบการไหลเวียนต่อวันอยู่ที่ 172 ล้านหน่วย 


ซึ่งก็เป็นไปตามการจัดสรรของ Kyber Network Crystal ที่ต้องการแจกจ่ายและควบคุมปริมาณของซัพพลายให้สอดคล้องกับสภาวะตลาด ทีมหลังบ้านจะติดตามการเติบโตของเครือข่ายและปริมาณการใช้งานต่อวัน เสริมสร้างสภายคล่อง และ ผลักดันนโยบาย Decentralized ผ่านทางแอปพลิเคชัน, Crypto Wallet และ Vendor จากทั่วโลก

รูปภาพที่แสดง การจัดสรรของ Kyber Network Crystal

ที่มา: www.kyber.network

ทีม KNC แข็งแกร่งหรือไม่?

KNC Coin คือ ระบบเครือข่ายที่ได้รับการดูแลและบริหารจัดการโดยทีมผู้เชี่ยวชาญจากสาขาวิชาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Loi Luu ที่จบปริญญาเอกด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์, Yaron Velner จบการศึกษาระดับปริญญาเอกด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ และ Victor Tran วิศกรที่คุ้นเคยกับ Cryptocurrencies มาตั้งแต่ปี 2016 เป็นทีมที่อยู่ในวงการ Blockchain มาไม่ต่ำกว่า 8 ปี


Kyber เป็นผู้บุกเบิก “โปรโตคอล” ที่ใช้พัฒนา “ความปลอดภัยของสัญญาอัจฉริยะ” ได้เป็นทีมแรกของโลก พวกเขาคือส่วนสำคัญที่ช่วยวางรากฐานของแอปพลิเคชันแบบกระจายอำนาจ ที่ก่อให้เกิดการไหลเวียนข้ามพรมแดนของข้อมูลได้อย่างราบรื่น เป็นจุดกำเนินของโครงการที่ KNC ได้ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนในการสร้างโซลูชั่น DeFi นวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่ถูกใช้บน Ethereum, Polygon, Binance Smart Chain และอื่นๆ อีกเพียบ


Kyber เป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาระบบ “เส้นโค้งของราคาที่ตั้งโปรแกรมได้ (Programmable Pricing Curves)” ซึ่งเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพในส่วนของค่าธรรมเนียม จนกลายเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูงที่สุด เป็นแกนนำในการจัดสร้าง Microservices Architecture ระบบโครงสร้างเครือข่ายที่อาศัยการทำงานของอัลกอริทึมอัจฉริยะ


ทีม KNC มีบทบาทสำคัญในการดูแลระบบงานหลังบ้านทั้งหมด เป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังการปรับปรุงเชิงเทคนิคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ระบบการกระจายอำนาจ, พัฒนาความปลอดภัยของบล็อกเชนสาธารณะ และบล็อกเชนเพื่อการซื้อขายหลักทรัพย์ จึงไม่แปลกที่นักลงทุนจะให้ความไว้วางใจ พร้อมกับปริมาณการซื้อขายรวมกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ และ Token ที่ใช้งานอยู่ในระบบมากถึง 20,000 หน่วย


ข้อดีข้อเสียของ เหรียญ KNC

ทุกวันนี้ Kyber Network Crystal กลายเป็นหนึ่งในคริปโตเคอเรนซีที่ใช้เทคโนโลยี Blockchain ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เป็น Liquidity Pool ที่รวบรวมสภาพคล่องจากหลายๆ แห่งเข้ามาไว้ในเครือข่ายเดียว ผู้ใช้งานที่คนสามารถเข้าถึงและร่วมตรวจสอบได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็น เจ้าของเหรียญ, Decentralized Exchange และ Market Maker แต่ก็ที่คุณจะก้าวเข้าสู่ตลาดนี้ เราขอแนะนำให้สำรวจข้อดีและข้อจำกัด ที่ KNC อาจไม่เคยบอกคุณมาก่อน


ข้อดี

  1. แลกเปลี่ยนคริปโตเคอเรนซีได้กับทุกสกุลเงิน ไม่มีค่าธรรมเนียม ไม่มีขั้นต่ำในการทำรายการ

  2. มีความยืดหยุ่นสูง ใช้ซื้อขายสินค้าได้กับทุกๆ ร้านค้า แม้จะไม่ได้รองรับเหรียญสกุลเงินนั้นๆ

  3. เป็นสกุลเงินดิจิตอลที่ค่อนข้างผันผวนต่ำ ผู้ถือสามารถเก็บสะสมเพื่อเก็งกำไรในอนาคตได้

  4. ได้เรทในการแลกเปลี่ยนสกุลเงินที่ดีที่สุด มีสภาพคล้องสูง ข่าวจากภายนอกมักไม่ค่อยส่งผลต่อมูลค่าของเหรียญ

  5. รองรับการแลกเปลี่ยน Token มาตรฐาน ERC-20 ผ่าน Smart Contract ของ Kyber Network

  6. เป็นการทำธุรกรรมแบบไม่ผ่านตัวกลาง Decentralized Autonomous Organization : DAO

  7. สามารถทำ TokenLock เพื่อรับค่าธรรมเนียมจากเครือข่ายได้


ข้อเสีย

  1. Kyber Network จะไม่มีผู้ดูแลหรือผู้รับฝากทรัพย์สิน (Custodian)

  2. จำนวนผู้ถือ KNC Coin ยังถือว่าน้อยมากๆ การซื้อขายหรือความนิยมในการลงทุนก็อาจอยู่ในปริมาณที่ไม่สูงมาก


KyberSwap โซลูชั่นใหม่ล่าสุดที่เจ้าของ KNC Coin จำเป็นต้องรู้

KyberSwap เป็นระบบการแลกเปลี่ยนแบบไม่มีตัวกลางที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ “DEX” โซลูชั่นใหม่ล่าสุดที่พัฒนาภายใต้เครือข่ายของ Kyber ร่วมกับสกุลเงินชั้นนำอย่าง Ethereum มีส่วนช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำธุรกรรมได้มากถึง 12 แพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็น Ethereum, Polygon, BNB และอื่นๆ อีกเพียบ


นี่จึงเป็นเหตุผลที่สภาพคล่องไม่จำเป็นต้องมาจากกลุ่มผู้ถือเหรียญ KNC เท่านั้น แต่ยังมาจาก DEX ที่อยู่ในเครือข่ายมากกว่า 67 รายการทั่วโลก 


อย่างไรก็ตาม แม้ KyberSwap อาจดูไม่น่าเชื่อถือเมื่อพูดในประเด็นของการซื้อขาย เพราะผู้ใช้สามารถควบคุมคำสั่งซื้อขาย และ ติดตามเงินทุนของตนเองได้ตลอดทั้งห่วงโซ่ แต่เพื่อการทลายข้อจำกัดด้านสภาพคล่องของ DeFi โซลูชั่นนี่ก็ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจไม้แพ้กัน

16860156367446

ที่มา: www.kyber.network

เทคโนโลยีขั้นสูงที่อัปเดตจากทาง KNC

KNC หรือ Kyber Network Crystal ได้ปรับโซลูชั่นพร้อมปล่อยผลิตภัณฑ์ล่าสุดออกมาให้แฟนๆ ได้เริ่มทองลองใช้งาน ซึ่งนวัตกรรมดังกล่าวได้พัฒนาผ่านแลป KNC ที่มีความทันสมัย เป็นแพลตฟอร์มที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ง่ายๆ แบบไม่มีตัวกลาง


- Decentralized Application: DAPPs เครือข่ายสภาพคล่องที่ใช้งานได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องผ่านตัวกลาง เช่น การแลกเปลี่ยนเหรียญคริปโตฯ


- Dynamic Market Maker: DMM ฟีเจอร์ใหม่ที่ถูกพัฒนามาจาก Automated Market Maker (AMM) ซึ่งจะช่วยปรับค่าธรรมเนียมตามความผันผวน และ ความสามารถในการกำหนด Price Curve ตามประเภทของเหรียญ


- User Interface (UI) เวอร์ชั่น 3.0 ของ Kyber ได้รับแรงบันดาลใจมาจากความต้องการของผู้ใช้เป็นหลัก เน้นความเรียบง่าย มีความทันสมัยสูง ส่งมอบประสบการณ์ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานในทุกมิติ


- DeFi เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่ Kyber Network ใช้ขับเคลื่อนในโปรเจ็คหลัก โดยเฉพาะการพัฒนาฟีเจอร์และฟังก์ชั่นการใช้งานพื้นฐานที่ดึงดูดฐานลูกค้าเดิมจาก DEX และแพลตฟอร์มอื่นๆ


อนาคต เหรียญ KNC จะเป็นอย่างไร?

ในปีที่ผ่านมาก KNC Network ถูกโจมตีด้วยกลุ่มแฮกเกอร์ที่สามารถขโมยเงินมูลค่าประมาณ 265,000 ดอลลาร์ไปได้สำเร็จ นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทาง KNC ประกาศความร่วมมือกับพันธมิตรในอุตสาหกรรม โดยเฉพาะผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยและหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย ซึ่งในอนาคตไม่ไกลนี้ พวกเขากำลังขยายการใช้งานผ่าน Blockchain และแอปพลิเคชันอื่นๆ เช่น การเปิดตัว Polygon blockchain ที่รองรับการแลกเปลี่ยนได้ถึง 9 สกุลเงินดิจิทัลที่ต่างกัน


จากการคาดการณ์ของ Kyber คาดว่าราคาของเหรียญอาจเพิ่มขึ้น 5.48 ดอลลาร์ ภายในปี 2023 และอาจปิดได้ในช่วงราคา 6.89 ดอลลาร์ โดยในปี 2023 มีโอกาสที่มูลค่าจะไปแตะ 7.67 ดอลลาร์ได้สำเร็จ


อย่างไรก็ตาม Kyber ยังคงมุ่งมั่งเดินหน้าตามวิสัยทัศน์ที่ต้องการแก้ไขปัญหา และเพิ่มประสิทธิภาพภายในโลกของสกุลเงินดิจิตอลให้สำเร็จ พวกเขาต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับตลาดคริปโตเคอเรนซี ผ่าน Ecosystem ของ Kyber Network ที่ผู้ใช้งานสามารถทำธุรกรรมผ่านแพลตฟอร์มได้ครบทุกสกุลเงิน


สรุป

KNC Coin คือ Token มาตรฐานประเภทหนึ่งที่ถูกใช้งานในระบบของ Kyber Network คอมมิวนิตี้ขนาดใหญ่ที่ใช้เทคโนโลยี Blockchain ในการเพิ่มสภาพคล่อง เชื่อมต่อกับเครือข่ายอื่นๆ เพื่อทำงานร่วมกับโปรโตคอลได้อย่างมีประสิทธิภาพ 


ผู้ถือเหรียญ KNC สามารถแลกเปลี่ยน ใช้ชำระสินค้า และมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงเพื่อกำหนดแนวทางของการพัฒนาแพลตฟอร์มในอนาคต ตามข้อกำหนดที่ระบุโดย KyberDAO อย่างไรก็ตาม แม้ KNC จะไม่ใช่สกุลเงินที่ได้รับความนิยมในการเก็งกำไร แต่ โทเคนดิจิทัลมาตรฐาน ERC-20 ก็ยังมีบทบาทสำคัญต่อระบบเครือข่ายสภาพคล่องสูง ที่ก่อให้เกิดการกระจายอำนาจและใช้ทรัพยากรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด


คำถามที่พบบ่อย

1. การ Staking เหรีนญ KNC คืออะไร?

Staking เป็นขั้นตอนของการสร้างมูลค่าให้กับ เหรียญ หรือ โทเคน โดยจะต้องนำเหรียญมา ฝาก หรือ ล็อค เอาไว้จนกว่าจะได้ผลตอบแทนในระดับที่พึงพอใจ ผ่านกระบวนการ Proof-of-Stake (PoS) เช่น การฝากเหรียญไว้ใน Wallet, การแลกเปลี่ยน และ การเข้าร่วม Pool เป็นต้น


2. ทำไมนักลงทุนถึงไม่นิยมเก็งกำไรจากเหรียญ knc ?

นักลงทุนส่วนใหญ่ที่ทำการซื้อขายเหรียญ KNC มักมีวัตถุประสงค์ในการเพิ่มสิทธิ์ความสามารถในการลงคะแนนเสียง เพื่อการกำหนดค่าธรรมเนียม, พัฒนาแพลตฟอร์ม รวมถึงการอัพเกรดเครือข่ายที่เป็นไปตามข้อตกลงของ KyberDAO จะไม่เหมาะกับการเก็งกำไรหรือคาดหวังผลตอบแทนในระยะสั้น


3. KNC มีค่าธรรมเนียมการถอนหรือไม่?

แน่นอน! คุณไม่สามารถหลีกเลี่ยงการจ่ายค่าธรรมเนียมสำหรับการถอน KNC ได้ เพราะค่าธรรมเนียมดังกล่าวเป็นส่วนสำคัญที่ถูกออกแบบโดย Kyber Network ซึ่งจะช่วยการันตีความปลอดภัยและความรวดเร็วในการทำธุรกรรม


4. แนวโน้มราคาของ KNC เป็นอย่างไร?

ปัจจุบันราคาของ KNC จะอยู่ที่ราวๆ 0.63 ดอลลาร์ ซึ่งตามการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ระบุว่า มูลค่าของเหรียญจะเติบโตไปสูงถึง 7.67 ดอลลาร์ภายในปี 2030


*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา


การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

บทความนี้มีประโยชน์หรือไม่?
บทความที่เกี่ยวข้อง
ราคาเสนอแบบเรียลไทม์
ราคาเสนอแบบเรียลไทม์