BEP20 คืออะไร: โทเค็น BEP20 ที่มีศักยภาพมากที่สุดในปี 2023

ทำความรู้จักกับ โทเค็น BEP20 คำที่ได้ยินกันอยู่บ่อย ๆ ในโลกของสกุลเงินดิจิทัล ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาจากเทคโนโลยี Blockchain ในบทความนี้เราจะพูดถึง  โทเค็น BEP20 ให้ทุกคนได้ทำความรู้จัก กับ BEP20 กันมากยิ่งขึ้น 

ในอดีตโทเคนเหมือนเป็นสกุลเงินเทียมหรือเป็นบัตรกำนัลที่ใช้แทนเงิน โดยทำการผ่านข้อตกลงกันทุกฝ่ายถึงมูลค่าที่แน่นอนของโทเคนภายใน Ecosystem ซึ่งทุกคนมีการตกลงที่จะนำมาใช้และแลกเปลี่ยนกัน แต่โทเคนพวกนี้มีการปลอมแปลงกันได้ง่าย ไม่ปลอดภัย ไม่มีความโปร่งใสและขาดความยุติธรรม ต่อมาโทเคนเสมือนเหล่านี้ก็ยังคงดำเนินต่อไปโดยที่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง 

จนกระทั่งการมาของเทคโนโลยี Blockchain ได้ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เนื่องจากโทเคนที่ใช้เทคโนโลยี Blockchain สามารถนำคุณลักษณะของสกุลดิจิทัลเข้ามาได้ และสามารถตรวจสอบถึงที่มาที่ไปได้ รวมถึงความปลอดภัยที่มากขึ้น และทำให้ปลอมแปลงไม่ได้ จึงเป็นการเพิ่มโอกาสให้เกิดการสร้างโทเคนที่มีความปลอดภัยสูงและเชื่อถือได้ ส่งผลให้บริษัทเอกชนและบุคคลทั่วไปสามารถสร้างโทเคนเพื่อการใช้งานที่แตกต่างกันได้

ปัจจุบันโทเคน (Token) คือ หน่วยข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกสร้างขึ้นในโลกของอุตสาหกรรมดิจิทัล (Cryptocurrency) โดยเป็นสินทรัพย์มีการใช้งานบน Blockchain โดยเฉพาะส่วน  โทเคนมีการใช้งานได้หลากหลายกรณีเพื่อการแลกเปลี่ยน ซื้อขาย และการใช้ประโยชน์อื่น ๆ เพื่อแสดงสิทธิในการร่วมลงทุน หรือสิทธิอื่นๆ ที่ได้ทำการตกลงกับผู้ออกโทเคน โดยเป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้ เพราะเป็นหน่วยในโลกอินเทอร์เน็ต และมีระบบจัดเก็บข้อมูลไว้อย่างปลอดภัย ซึ่งระบบนั้นถูกเรียกว่า บล็อกเชน (Blockchain) ทั้งนี้โทเคนถูกแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบคือ

           1. Utility Token: เหรียญโทเคน ที่เอาไว้ใช้แลกกับการบริการ หรือใช้งานในระบบนั้น ๆ

           2. Security Token: เปรียบเสมือนหุ้นหรือหลักทรัพย์ ผ่านการกำกับดูแลองค์กรของรัฐ เช่น  SiriHub Token โทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนตัวแรกในประเทศไทย ซึ่งได้รับการดูแลโดยสำนักงาน ก.ล.ต. เป็นต้น ทั้งนี้  Security Token ถูกแบ่งออกเป็น 4 ประเภทย่อยคือ 

ตารางเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง Token และ Coin

สรุปสั้น ๆ ได้ว่าโทเคน (Token) ก็คือสกุลเงินดิจิทัลที่สร้างขึ้นเพื่อกำหนดสิทธิต่าง ๆ ไม่ได้มีการพัฒนาจากบล็อกเชนของตัวเองโดยตรง เช่น Ethereum ผ่านการเขียน Smart contract ในขณะที่เหรียญ (Coin) เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยมีเครือข่ายบล็อกเชนเป็นของตนเองโดยตรงนั่นเองค่ะ

BEP20 คือ เหรียญที่ได้รับการพัฒนาตามมาตรฐานของ BNB Smart Chain หรือ BSC ถือเป็นเหรียญที่พัฒนาต่อยอดมาจาก ERC20 ของเครือข่ายอีเธอเรียม ได้รับการออกแบบให้เข้ากันได้กับเครื่องเสมือน Ethereum (EVM) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มของ Ethereum สำหรับการพัฒนาสัญญาอัจฉริยะ

จริง ๆ แล้ว BEP20 คือส่วนประกอบขององค์ประกอบระหว่างเหรียญ BEP2 ของ BNB Beacon Chain กับ ERC20 อนุญาตให้นักพัฒนาปรับใช้โทเค็นที่ใช้งานได้หรือสกุลเงินดิจิทัลบน Binance Smart Chain ทำให้เป็นมาตรฐานโทเค็นที่เป็นมิตรต่อนักพัฒนา ด้วย BEP20 ทุกคนจะเปิดตัว cryptocurrency หรือสินทรัพย์ดิจิทัลของตนเองบน BSC ได้ง่ายขึ้น 

ส่วนมาตรฐานของ BEP-20 นั้นก็มาจากวัตถุประสงค์ต่าง ๆ รวมเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์กับมาตรฐาน ERC-20 และรหัสของฟังก์ชันที่กำหนดมาตรฐาน BEP-20 ซึ่งเป็นการปรับเปลี่ยนมาตรฐาน ERC-20 นั่นเองค่ะ การแก้ไขจะเป็นเหมือนการปรับปรุงโปรโตคอลในการเพิ่มฟังก์ชันการทำงาน ความเร็วและต้นทุนของการทำธุรกรรมมากขึ้น

ข้อดี:

1. BEP20 ใช้ Binance Smart Chain ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความเร็วสูงและค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมต่ำ

2. โทเค็น BEP20 สามารถใช้งานได้หลากหลาย เช่น การชำระค่าสินค้าและบริการ หรือเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนแบบกระจายอำนาจ (Decentralize)

3. โทเค็น BEP20 ใช้ร่วมกันกับเครือข่าย Ethereum ได้ เช่น ในกระเป๋าเงิน Ethereum ปัจจุบัน BEP20 รองรับโดยกระเป๋าเงิน  BNB Chain Wallet FTX Wallet  Arkane Wallet Math Wallet Trust Wallet และ Metamask Wallet 

4. รองรับการทำงานของโทเค็นที่สร้างขึ้นโดยใช้มาตรฐาน BEP-20 สำหรับใช้ภายในเครือข่าย BSC

ข้อเสีย:

1. BEP20 ยังเป็นเทคโนโลยีที่ค่อนข้างใหม่ อาจมีปัญหาบางอย่างเกี่ยวกับ ความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือที่ยังไม่ได้เป็นการยอมรับในวงกว้าง

2. มูลค่าของโทเค็น BEP20 สามารถเปลี่ยนแปลงได้ อาจไม่ใช่การลงทุนที่เหมาะสมกับทุกคน

3. โทเค็น BEP20 ไม่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล มูลค่าถูกกำหนดโดยอุปสงค์และอุปทานของตลาดเท่านั้น

4. โทเค็น BEP20 ยังไม่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นรูปแบบการชำระเงิน ดังนั้นจึงอาจเป็นเรื่องยากที่จะใช้โทเค็น BEP20 สำหรับการทำธุรกรรมในชีวิตประจำวัน

เปรียบเทียบ BEP20 และ ERC20

จากข้อมูลเปรียบเทียบในตาราง เราสามารถสรุปได้ว่าโทเค็น BEP20 ไม่แตกต่างจาก ERC-20 ของ Ethereumมากนัก มีการทำงานบนเครือข่ายที่แตกต่างกัน แต่มีจุดประสงค์เดียวกัน โทเค็นที่สร้างขึ้นโดยใช้ BEP20 กับ ERC20 สามารถแปลงจากอันหนึ่งไปยังอีกอันหนึ่งได้ ด้วยเหตุนี้จึงถือเป็นรุ่นแฝดได้

Binance Coin 

- อันดับ CoinMarketCap ปัจจุบันคือ #4

- ราคา BNB 9,640.00 THB

- มูลค่าตลาดรวมเท่ากับ ฿1,502,789,541,049 THB

- ปริมาณการซื้อขายภายใน 24 ชั่วโมงเท่ากับ ฿23,195,852,967 THB

- อุปทานหมุนเวียนเท่ากับ 155,855,333 BNB เหรียญ

เหรียญ Binance (BNB) หรือที่เรียกว่า (peggy coins) คือสกุลเงินดิจิทัลอยู่บนเครือข่าย Ethereum (ERC-21) ก่อนจะทำเครือข่ายบล็อกเชนของตัวเองขึ้นมาอย่าง Binance Smart Chain (BEP2) ให้สามารถใช้แลกเปลี่ยนเป็นสินค้าหรือบริการกับร้านค้าที่สนับสนุน และใช้เป็นค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรม ใช้งาน DeFi หรือสร้างสินทรัพย์ประเภท NFT บนเครือข่าย Binance Smart Chain

Binance USD 

- อันดับ CoinMarketCap ปัจจุบันคือ #15

- ราคา Binance USD คือ 34.78 THB

- มูลค่าตลาดรวมเท่ากับ ฿173,832,744,096 THB. 

- ปริมาณการซื้อขายภายใน 24 ชั่วโมงเท่ากับ ฿92,045,613,017 THB.

- อุปทานหมุนเวียนเท่ากับ 4,997,666,048 BUSD เหรียญ

BUSD คือ เหรียญประเภท Stablecoin หนึ่ง อยู่ภายใต้การกำกับดูแลและหนุนกับมูลค่าเงิน Fiat อย่างเงินสกุลดอลลาร์ฯ มีมูลค่าเท่ากับ 1:1 โดยราคา BUSD ขึ้นลงตามมูลค่าสกุลเงินดังกล่าว เป็นสกุล fiat แบบเงินดิจิทัลที่ออกบน ERC-20 และรองรับ BEP-2

PancakeSwap

- อันดับ CoinMarketCap ปัจจุบันคือ #98

- ราคา PancakeSwap คือ 55.70 THB

- ปริมาณการซื้อขายภายใน 24 ชั่วโมงเท่ากับ ฿984,412,165 THB.

- มูลค่าตลาดรวมเท่ากับ ฿11,310,357,034 THB.

- อุปทานหมุนเวียนเท่ากับ 203,052,985 CAKE เหรียญ

แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนที่เน้นการทำงานแบบกระจายศูนย์ (Decentralized) พัฒนาขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยนโทเคน BEP-20 (Binance Smart Chain Evolution Proposal) โดยโทเคนประเภทนี้เป็นมาตรฐานโทเคนของ Binance หากต้องการนำโทเคนอื่น มาแลกเปลี่ยนบน Pancake Swap โทเคนต้องมีความถูกต้องตามมาตรฐาน BEP-20 จึงจะนำมาแลกเปลี่ยนบนแพลตฟอร์มได้ สิ่งที่น่าสนใจคือ แพลตฟอร์มนี้อนุญาตให้ผู้ใช้งานแลกเปลี่ยนโทเคนและรับรางวัลต่างจากการทำ Yield Farming, Staking และการซื้อลอตเตอรี่บน PancakeSwap โดยไม่ต้องลงทะเบียนหรือยืนยันตัวตนอีกทั้งค่าธรรมเนียมต่ำกว่าและทำธุรกรรมเร็วกว่า เมื่อเทียบกับการแลกเปลี่ยนบน Ethereum

มีหลายวิธีในการรับโทเค็น BEP20 มากมาย

- เข้าร่วม Airdrops: จะมีหลายโครงการแจกจ่ายโทเค็นฟรีให้กับสมาชิกในชุมชนผ่าน Airdrops ซึ่งเราจะหาข้อมูลข่าวสารได้ตามเว็บไซต์ต่าง ๆ ได้เลย เช่น CoinMarketCap, Airdrops.io, Airdrops Alert และ AirdropsKing.io ถือเป็นแหล่งข้อมูลที่น่าสนใจ ในการเป็นตัวช่วยให้นัก   เทรดค้นหาเหรียญคริปโตฟรีที่ถูกกฏหมาย

- การทำฟาร์มผลผลิต: เป็นวิธีที่ช่วยให้นักเทรดได้รับดอกเบี้ยคงที่หรือผันแปรจากการลงทุนคริปโต บนแพลตฟอร์ม DeFi เพื่อรับรางวัลในรูปแบบของโทเค็นมากขึ้น การลงทุนใน ETH นั่นไม่ใช่การทำฟาร์ม แต่เป็นการให้กู้ยืมเงิน ETH จาก Aave เพื่อรับผลตอบแทนที่เกินกว่ามูลค่าที่เพิ่มขึ้นของราคา ETH คือการทำฟาร์มผลผลิตนั่นเอง

- เข้าร่วมในโปรแกรมรางวัล: หลายโครงการมีโปรแกรมรางวัลที่คุณสามารถรับโทเค็นได้จากการทำงานให้เสร็จ เช่น เขียนบทความ สร้างวิดีโอ หรือแปลเนื้อหา

การพัฒนา:

   * *ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีการพัฒนาหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาโทเค็น BEP20 ซึ่งรวมถึงการสร้างมาตรฐานโทเค็น BEP20 ที่คล้ายกับมาตรฐาน ERC20 บน Ethereum blockchain และการพัฒนาเครื่องมือบนแพลตฟอร์มเพื่อรองรับการสร้างและการปรับใช้โทเค็น BEP20 ปัจจุบันด้วยความนิยมที่เพิ่มขึ้นของ Binance Smart Chain และการเติบโตของการเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi) บนแพลตฟอร์มนี้ จึงมีแนวโน้มต้องการในการพัฒนาโทเค็น BEP20 อย่างต่อเนื่องในอีกหลายปีข้างหน้า

ความเสี่ยง:

   * *โทเค็น BEP20 ทำงานบน Binance Smart Chain (BSC) อาจมีความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการไม่ได้รับการกระจายอำนาจเหมือนกับบล็อกเชนอื่น ๆ อย่างเช่น Ethereum 

   * *การพัฒนาโทเค็น BEP20 และ Binance Smart Chain ถูกควบคุมโดย Binance ซึ่งอาจนำไปสู่การรวมศูนย์ (Centralized) และปัญหาการควบคุมของ Binance เป็นผลอย่างมากต่อการพัฒนาแพลตฟอร์ม ซึ่งอาจทำให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ตามมา

   * *BEP20 ของเชน BSC ถูกหยิบยกมาพูดถึงในแง่ของความปลอดภัยเครือข่าย โดยยังถือว่ามีข้อบกพร่องอยู่ เพราะใช้ Validator ในการตรวจสอบความถูกต้องของบล็อกเพียง 21 ราย ต่างจากอีเธอเรียมที่ใช้ Validator มากถึง 70,000 ราย ส่งผลให้เหรียญ BEP20 อาจได้รับความน่าเชื่อถือน้อยกว่าเมื่อกล่าวถึงประเด็นนี้:

และเมื่อปลายปี 2565 ที่ผ่านมาได้เกิดเหตุการณ์โจมตีช่องโหว่ของระบบ แฮกเกอร์แฮก Binance Smart Chain (BSC) Token Hub บริการข้ามเชนระหว่าง BNB Beacon Chain และ Binance Smart Chain เอง ทำให้แฮกเกอร์ได้โทเค็น BNB ไป 2 ล้าน BNB รวมมูลค่าประมาณ 566 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 20,000 ล้านบาท ที่เกิดขึ้น ทาง Binance หยุดการทำงานของ BSC ทันที ตอนนี้ validator ทั้งหมดไม่มีใครให้บริการยืนยันธุรกรรมแล้วทำให้คนร้ายไม่สามารถโอนเงินไปมาได้ แต่คาดว่ามีโทเค็นบางส่วนถูกโอนข้ามเชนไปก่อนแล้ว มูลค่าประมาณ 70-80 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 3,000 ล้านบาท และทาง Binance กำลังร่วมมือกับเชนต่างๆ เพื่อหยุดการโอนในเชนอื่น ๆ ต่อมาเครือข่าย BSC กลับมาทำงานได้ตามปกติในช่วงบ่ายของวันนั้น

โทเค็น BEP20 มีข้อดีหลายอย่าง รวมถึงความเร็วในการทำธุรกรรมที่รวดเร็ว ค่าธรรมเนียมต่ำ และการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพกับสินทรัพย์อื่น ๆ ที่อิงกับ BSC นอกจากนี้ยังเข้ากันได้กับ Ethereum Virtual Machine (EVM) มีการใช้ Solidity ซึ่งเป็นภาษาโปรแกรมยอดนิยมที่ใช้สำหรับ Ethereum smart contracts เพื่อสร้างโทเค็น BEP20 อีกด้วย โดยรวมแล้วปัจจุบันมาตรฐาน BEP20 ได้กลายเป็นที่รู้จักและเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับการสร้างโทเค็นบน Binance Smart Chain เนื่องจากมีการใช้งานง่าย มีความยืดหยุ่น และอีกประโยชน์มากมาย

BEP-20 สร้างมาเพื่ออะไร

ตอบ เพื่อพัฒนาต่อยอดจาก ERC20 ของเครือข่ายอีเธอเรียม โดยเชน BSC ได้ประยุกต์เอาแอปพลิเคชันแบบ Decentralized เข้ามา ทำให้ช่วยเรื่องการเทรดได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และมีค่า Gas ที่ถูกลงอีกด้วย

ฉันจะสร้างโทเค็น BEP-20 ของตัวเองได้อย่างไร

ตอบ หากต้องการสร้างโทเค็น BEP-20 ของคุณเอง คุณจะต้องเขียนและปรับใช้สัญญาอัจฉริยะบนเครือข่าย BSC สามารถใช้เครื่องมือต่าง ๆ เช่น Remix, Truffle หรือ Solidity เพื่อเขียนสัญญาอัจฉริยะของคุณ จากนั้นปรับใช้โดยใช้เครื่องมืออย่าง Binance Smart Chain Studio

BEP-20 Address คืออะไร

ตอบ เป็นที่อยู่เฉพาะใช้สำหรับส่งและรับโทรเคนตามมาตรฐานโทเคน BEP-20 บน Binance Smart Chain และใช้สำหรับสร้างและซื้อขายบน Binance Smart Chain หากต้องการค้นหา BEP-20 ของนักเทรด สามารถใช้กระเป๋าเงินที่เข้ากันได้ เช่น Trust Wallet หรือ Metamask และทำตามคำแนะนำ